ระบบสัญญาณกันขโมยมีมาตรฐาน (Grades) กี่ระดับ และจะเลือกระบบที่ดีที่สุดได้อย่างไร?

Share

Warning: Undefined array key "postid" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 24

Warning: Undefined array key "increase" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 25

Warning: Undefined array key "show_views_today" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 26

Loading

เมื่อเราต้องการจะเลือกซื้อสัญญาณกันขโมย “มาตรฐาน (Grade)” เป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุด สำหรับการตัดสินใจที่จะเลือกซื้อ โดยปกติแล้ว เราก็จะเลือกโดยการค้นหาข้อมูล หาราคา ข้อมูลจำเพาะของเครื่อง แล้วก็ตามด้วยการรีวิวจากผู้ใช้ท่านอื่นๆ หรือบางครั้งเราก็เลือกที่จะถามคำแนะนำจากเพื่อน ทุกวิธีที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ อาจจะเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เราตัดสินใจได้ แต่ถ้าเราพูดถึงกันในเรื่องการรับประกันคุณภาพแล้วนั้น มาตรฐาน (Grade) คือสิ่งที่สำคัญสุด
การแบ่งมาตรฐาน (Grade) ของสัญญาณกันขโมยคืออะไร?

มาตรฐาน (Grade) ของสัญญาณกันขโมย มีจุดเริ่มต้นมาจากมาตรฐานของประเทศอังกฤษ และทางฝั่งยุโรป ที่ได้กำหนดไว้สำหรับสัญญาณกันขโมย (ซึ่งได้อธิบายไว้ในคู่มือข้อกำหนด EN 50131) โดยปกติจะเรียกว่า (EN Grade) มาตรฐานยุโรป ว่าด้วยความสามารถของสัญญาณกันขโมยที่ตรวจจับการบุกรุกที่แท้จริง และหลีกเลี่ยงการแจ้งเตือนที่ผิดพลาด ซึ่งการเลือกสัญญาณกันขโมยจากมาตรฐาน (Grade) นั้น จะเป็นการป้องกันไม่ให้เราเจอกับสินค้าคุณภาพต่ำ และการเลือกใช้งานผิดประเภท

  • มาตรฐานยุโรป (EN) เป็นการทดสอบระดับ EN ดำเนินการโดยห้องปฏิบัติการที่ผ่านการรับรอง และอุปกรณ์ที่ผ่านการทดสอบเท่านั้น จึงจะสามารถเรียกได้ว่า เป็นอุปกรณ์ หรือระบบที่ผ่านการรับรองตามตามเกณฑ์มาตรฐาน (Grade EN) การทดสอบนั้น มีความครอบคลุมที่หลากหลาย ตัวอย่าง เช่น สำหรับตัวตรวจจับการบุกรุก ชุดทดสอบ EN50131-2 จะเป็นไปตามการทดสอบการตรวจจับขั้นพื้นฐาน การทดสอบการตรวจจับ, การตรวจจับที่ผิดพลาด, การป้องกันจากการงัดแงะ, การทดสอบทางไฟฟ้า, การทดสอบสภาพแวดล้อม
ในแต่ละมาตรฐาน (Grade) มีความแตกต่างกันอย่างไร?

สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดในเงื่อนไขของมาตรฐาน EN 50131 คือ ในแง่ของระดับการรักษาความปลอดภัย ใครก็ตามที่กำลังคิดจะติดตั้ง อัพเกรด หรือกำลังจะเปลี่ยนระบบสัญญาณกันขโมย ควรที่จะเข้าใจในเรื่องของมาตรฐาน (Grade) สัญญาณกันขโมย และความจำเป็นที่เหมาะกับธุรกิจ ซึ่งขึ้นอยู่กับระดับความเสี่ยงของทรัพย์สินของธุรกิจนั้นๆ

สัญญาณกันขโมยได้แบ่งมาตรฐาน (Grade) ความแตกต่างกัน เป็น 4 ประเภท จาก Grade 1 ถึง Grade 4 โดยอิงจากระดับประสิทธิภาพ เช่น การใช้งาน ความน่าเชื่อถือ และความทนทาน ในมาตรฐาน Grade 2 และ Grade 3 ได้ถูกนำไปใช้ในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยในระบบสัญญาณกันขโมย

มาตรฐาน Grade 2 ระบบกันขโมยสำหรับสิ่งปลูกสร้าง อาคาร
ที่มีทรัพย์สินมีค่า โดยผู้บุกรุกต้องมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการทำงานของระบบเตือนภัย และอาจมีเครื่องมือพื้นฐานมากมาย
ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีมาตรฐาน Grade 2 เพื่อป้องกันสิ่งเหล่านี้ ตัวอย่างสถานที่ที่ซึ่งมีระบบกันขโมยที่ได้รับมาตรฐาน Grade 2
จะเหมาะสมกับสิ่งปลูกสร้างหรืออาคารที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น เครื่องคิดเงินในร้านสะดวกซื้อ ร้านเบเกอรี่ ร้านดอกไม้ หรือร้านทำผม
มาตรฐาน Grade 3 ระบบกันขโมยสำหรับสิ่งปลูกสร้าง อาคารที่ต้องการการป้องกันการโจรกรรมมากขึ้น
เนื่องจากมีทรัพย์สินมูลค่าสูง และอาจมีแรงจูงใจให้มีการก่อเกตุโดยอาชญากรมืออาชีพ ผู้บุกรุกจะต้องมีความรู้ที่ดีเกี่ยวกับวิธีการทำงานของระบบเตือนภัย และมีเครื่องมือพิเศษมากมายที่จะเอาชนะระบบได้ ตัวอย่างของสถานที่ดังกล่าว ได้แก่ ธนาคาร หอศิลป์ ร้านขายเครื่องประดับ ห้างสรรพสินค้า หรืออาคารสำนักงานที่มีข้อมูลสำคัญ

ลูกค้าของเราควรเลือกมาตรฐาน (Grade) ความปลอดภัยระดับไหนดี?
ถ้าคุณยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับมาตรฐาน (Grade) ของสัญญาณกันขโมยที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ อันดับแรก ควรที่จะประเมินความเสี่ยงเกี่ยวกับทรัพย์สินของธุรกิจคุณเอง วิธีนี้เป็นคำแนะนำหลักในคู่มือข้อกำหนด EN 50131 ซึ่งได้เน้นที่ปัจจัยความเสี่ยงทั้งหมด ต่อความจำเป็นในการเลือกมาตรฐาน (Grade) ของระบบที่เหมาะสม หรือคุณสามารถขอให้ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย ให้คำแนะนำแก่คุณ และธุรกิจของคุณ

บริษัท ออพเท็ค จำกัด เป็นผู้ผลิตและให้บริการสินค้าเฉพาะกลุ่ม ผู้นำอันดับ 1 ของโลก ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย
รวมถึงเซนเซอร์สัญญาณกันขโมย ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน (Grade 2) และมาตรฐาน (Grade 3)

ออพเท็คได้ดำเนินการทดสอบประเมินผลิตภัณฑ์จากการใช้งานจริง มากกว่า 150 รูปแบบ และเซนเซอร์มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น เมื่อลดปัจจัยรบกวนแต่ละอย่างออกจากสภาพแวดล้อม ออพเท็คยังได้รวมมาตรฐานระดับโลกไว้ในผลิตภัณฑ์เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย ระเบียบและมาตรฐานอย่างเป็นทางการของแต่ละประเทศอีกด้วย 

นี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ออพเท็ค มุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ ที่ลูกค้าทั่วโลกสามารถใช้งานได้อย่างอุ่นใจ

 

บริษัท ออพเท็ค (ประเทศไทย) จำกัด
เลขที่ 90 อาคารซีดับเบิ้ลยู ทาวเวอร์ (ทาวเวอร์ บี) ยูนิตบี 1702
ชั้น 17 ถนนรัชดาภิเษก เขตห้วยขวาง แขวงห้วยขวาง กทม. 10310
โทร. 02-168-3162 แฟกซ์ 02-168-3163
Email: customer@optex.co.th
https://optex.co.th/th/
日本語窓口:有村
k-arimura@optex.co.jp