หุ่นยนต์เครื่องดูดฝุ่นอัจฉริยะ ใช้ AR สแกนตำแหน่งทำความสะอาดแบบเสมือนจริง

Share

Loading

  • Dyson พัฒนาอุปกรณ์ทำความสะอาดด้วยเทคโนโลยี Augmented Reality (AR) แสดงตำแหน่งพื้นที่ที่ทำความสะอาดแล้วหรือยังไม่ได้ทำ ด้วยข้อมูลเสมือนใช้งานได้ผ่านหน้าจอของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
  • เทคโนโลยี LiDAR ในโทรศัพท์ของผู้ใช้เพื่อจัดทำแผนที่ภายในห้องและวางเส้นทางการทำความสะอาด ทำให้ประหยัดเวลาและมั่นใจว่าไม่มีจุดใดถูกพลาดไป
  • ผลการวิจัยของ Dyson พบว่าผู้บริโภคมักประเมินเวลาในการทำความสะอาดสูงเกินไป และไม่เป็นระบบ ทำให้เห็นถึงความจำเป็นที่ต้องนำเทคโนโลยี AR มาใช้

เครื่องดูดฝุ่นอัจฉริยะ Dyson ใช้ AR สแกนตำแหน่งทำความสะอาดแบบเสมือนจริง ผ่านโทรศัพท์มือถือ ทำให้รู้ได้แม่นยำว่า พื้นที่ในบ้านทำความสะอาดทุกตารางนิ้ว และลดเวลาซ้ำซ้อน

การทำความสะอาดเป็นงานที่หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องง่าย แต่ระหว่างขาเก้าอี้ ใต้เฟอร์นิเจอร์ รวมไปถึงการเดินไปเดินมาระหว่างห้อง และการย่ำเท้าของสัตว์เลี้ยงนั้น ทำให้ยากที่จะทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง หรือการที่ดูดฝุ่นซ้ำ ๆ ในจุดเดิมก็ทำให้เสียเวลาและลดประสิทธิภาพของการทำความสะอาดไปโดยเปล่าประโยชน์

Dyson จึงพัฒนาอุปกรณ์ด้วยการนำเครื่องมือ Augmented Reality (AR) หรือ เทคโนโลยีที่นำข้อมูลเสมือนจริงมาใช้ ทำให้ผู้ใช้เห็นภาพที่มีการปรับปรุงและเสริมสร้างด้วยข้อมูลเสมือน สามารถใช้งานได้ผ่านหน้าจอของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ต แสดงตำแหน่งพื้นที่ที่ต้องการทำความสะอาด หรือทำความสะอาดไปแล้วได้อย่างแม่นยำ เรียลไทม์ แสดงให้เห็นถึงพื้นที่ที่ถูกทำความสะอาด หรือยังเข้าไม่ถึง ทำให้ประหยัดเวลาในการทำความสะอาด และไม่ต้องสงสัยว่าได้ทำความสะอาดตรงนี้ไปหรือยัง ช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีจุดไหนที่ไม่สะอาด

Dyson CleanTrace ผสมผสานเทคโนโลยีเข้าด้วยกันเพื่อการทำความสะอาดที่ทรงพลัง ชาญฉลาด และทั่วถึงที่สุด เทคโนโลยี LiDAR ที่อยู่ในโทรศัพท์ของผู้ใช้จะช่วยให้ อุปกรณ์ทำความสะอาดจัดทำแผนที่ภายในห้องและวางเส้นทางการทำความสะอาดโดยใช้ AR ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงพื้นที่ที่ถูกทำความสะอาด และจุดที่พลาดไป เมื่อทำความสะอาดเสร็จแล้ว ผู้ใช้สามารถสแกนห้องด้วยโทรศัพท์ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าไม่ได้พลาดจุดไหนไป โดยเทคโนโลยีที่มีอยู่ในเครื่องดูดฝุ่น Dyson Gen5detectTM จะตรวจจับและนับอนุภาคฝุ่นโดยใช้เทคโนโลยี Acoustic Dust Sensing แสดงถึงการทำความสะอาดอย่างล้ำลึก

Charlie Park รองประธานฝ่ายวิศวกรรม, Dyson Home ระบุว่า “วิศวกรของบริษัทได้ศึกษาพฤติกรรมของมนุษย์ นิสัยในการทำความสะอาด ตลอดจนอุปสรรคในการใช้งานจริง โดยใช้เวลาหลายร้อยชั่วโมงสังเกตการทำความสะอาดบ้านทั่วโลก โดยศึกษาเวลาในการทำความสะอาด ประสิทธิภาพของการทำความสะอาด มุมและรูปแบบการดูดฝุ่นที่แตกต่างกัน แม้กระทั่งจำนวนครั้งที่ผู้ใช้วางเครื่องดูดฝุ่นในระหว่างทำความสะอาด

งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคมักจะประเมินเวลาในการทำความสะอาดสูงเกินไป ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าประมาณ 80% ของการทำความสะอาดใช้เวลาน้อยกว่า 10 นาที แต่ผู้คนยังอ้างว่าพวกเขาดูดฝุ่นโดยเฉลี่ย 24 นาทีต่อครั้ง นอกจากนี้ผู้บริโภคยังทำความสะอาดแบบไม่เป็นระบบและไม่มีประสิทธิภาพ โดยมักทำความสะอาดที่เดิมซ้ำ ๆ และพลาดจุดอื่นไป ซึ่งนี่แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นในการทำเทคโนโลยี AR เข้ามาใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์ และได้เรียนรู้หลายอย่างจากการวิธีการทำความสะอาดอย่างเป็นระบบของหุ่นยนต์เครื่องดูดฝุ่น การทำความสะอาดโดยหุ่นยนต์ Dyson จะต่างจากการทำความสะอาดโดยมนุษย์ตรงที่มันรู้ว่ามันอยู่ส่วนไหนของห้อง ตรงไหนที่ไปมาแล้ว และตรงไหนที่ยังไม่ถูกทำความสะอาด ซึ่งเมื่อผสมผสานกับเทคโนโลยีตรวจจับอนุภาค จะช่วยให้พิสูจน์ได้ว่าพื้นสะอาดอย่างแท้จริง

แหล่งข้อมูล

https://www.springnews.co.th/digital-tech/technology/849376