องค์กรชั้นนำใช้ ‘GEN AI’ ทำอะไร? สรุปกรณีจาก Google Cloud Next 2024

Share

Loading

รายงานจาก Google Cloud Next 2024 สรุปกรณีองค์กรชั้นนำของโลก 101 ราย นำเอไอเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน บริการลูกค้า จัดการข้อมูล ทำงานด้านสื่อ พัฒนาซอฟต์แวร์ ตลอดจนเฝ้าระวังเรื่องความปลอดภัย

ตั้งแต่ Generative AI เข้ามาดึงดูดความสนใจของโลก การเกิดขึ้นของแชตบอตตอบคำถาม เครื่องมือเจนเอไอ กลายเป็นคำถามที่ชวนถกเถียงว่านำเอไอมาใช้ทำอะไรถึงจะเหมาะสมที่สุด ท้ายที่สุด ก็พบว่า หากนำเอไอมาใช้ในองค์จะทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

รายงานจาก Google Cloud Next 2024 กล่าวถึง ผู้นำอุตสาหกรรม 101 ราย ที่นำเอไอของกูเกิลมาใช้งานจริงในองค์กร ตั้งแต่การบริการลูกค้า จัดการข้อมูล ทำงานด้านสื่อ พัฒนาซอฟต์แวร์ ตลอดจนเฝ้าระวังเรื่องความปลอดภัย

เอไอกับงานบริการลูกค้า

องค์กรที่นำเอไอเข้ามาช่วยงานด้านบริการลูกค้า เริ่มใช้เอไอตั้งแต่ แนะนำสินค้าให้ตรงกับความต้องการ พัฒนาแชตบอตตอบคำถามลูกค้า วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า ปรับแต่งโฆษณาให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย วิเคราะห์ความคิดเห็นของลูกค้า ตัวอย่างเช่น

  1. IHG Hotels & Resorts: สร้างแชตบอตเอไอชื่อ IHG One Rewards เพื่อช่วยให้แขกวางแผนวันหยุดพักผ่อนด้วยตนเอง ผ่านการใช้งานบนแอปพลิเคชัน
  2. Mercedes Benz: มีบริการผู้ขายอัจฉริยะหน้าร้านออนไลน์ ชื่อ AI Mercedes และยังวางแผนขยายการใช้กูเกิลคลาวด์ในศูนย์บริการทางโทรศัพท์ นอกจากนี้ก็ใช้ Vertex AI และ Gemini เพื่อออกแบบแคมเปญทางการตลาด
  3. Samsung: นำ Gemini Pro และ Imagen 2 มาผสานกับสมาร์ตโฟน Galaxy S24 ผู้ใช้สามารถสั่งให้เอไอสรุปข่าว จัดระเบียบ และแก้ไขภาพแบบล้ำสมัย
  4. Minnesota Division of Driver and Vehicle Services: ช่วยเหลือผู้ที่จะสอบใบขับขี่และบริการอื่นๆ แต่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ด้วยการนำเอไอมาแปลภาษาแบบเรียลไทม์
ผู้ช่วยอัจฉริยะ จัดการข้อมูลมหาศาล

องค์กรที่นำเอไอเข้ามาสนับสนุนการทำงานของพนักงาน ทำให้พนักงานสามารถจัดการงานที่ซ้ำซาก นอกจากนี้ก็ยังสามารถตอบคำถามของพนักงาน แปลภาษา ช่วยพนักงานค้นหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ รวมไปถึงการจัดการเอกสาร ตัวอย่างเช่น

  1. Bank of New York Mellon: สร้างแชตบอตเอไอเพื่อตอบคำถามของพนักงาน และช่วยให้พนักงานค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้าและบริษัทได้อย่างง่ายขึ้น
  2. DaVita: ใช้ประโยชน์จาก DocAI และ Healthcare NLP มาช่วยวิเคราะห์เวชระการรักษา ค้นหาข้อมูลเชิงลึกของผู้ป่วยโรคไต ซึ่งสามารถช่วยลดข้อผิดพลาดจากงานทำงานมือ เพราะเอไอมีความแม่นยำมากกว่า วิธีนี้เมื่อทำงานควบคู่ไปกับแพทย์ ทำให้แพทย์และพยาบาลมีเวลาทำงานที่มากขึ้น
  3. BenchSci: นำเจนเอไอมาเป็นโซลูชันที่ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจความซับซ้อนในงานวิจัยทางชีวภาพมากขึ้น ส่งผลให้สามารถประหยัดเวลา ทรัพยากร และต้นทุนได้
  4. Vodafone: ใช้ Vertex AI เพื่อค้นหาและทำความเข้าใจข้อกำหนด เงื่อนไขเชิงพาณิชย์ เฉพาะในสัญญามากกว่า 10,000 สัญญา กับผู้ให้บริการสื่อสารมากกว่า 800 ราย
เพิ่มขีดความสามารถการออกแบบ-ผลิต

สำหรับงานด้านการสร้างสรรค์ สื่อ มีหลายองค์กรนำเครื่องมือเจนเอไอมาใช้งานตั้งแต่ เขียนบทความ แปลภาษา ตัดต่อวิดีโอ แต่งเพลง พัฒนาแชตบอตตอบคำถามผู้ชม ปรับแต่งข้อความโฆษณาให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ออกแบบแคมเปญโฆษณา ตัวอย่างเช่น

  1. Canva: นำ Vertex AI มาผสานเข้ากับเครื่องมือการทำงาน ทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างสรรค์ผลงานที่อัจฉริยะมากขึ้น เช่น เครื่องมือ Magic Design แค่อัปโหลดรูปภาพระบบก็สร้างเทมเพลตที่เหมาะที่สุดให้ทันที เครื่องมือ Presentation ai การให้เอไอออกแบบการนำเสนอ ด้วยการป้อนคีย์เวิร์ดลัด เป็นต้น
  2. Belk ECommerce: ใช้เจนเอไอช่วยเขียนคำอธิบายสินค้า
  3. WPP: เพิ่มประสิทธิภาพการโฆษณาด้วยการนำเจนเอไอผสานกับออกแบบแคมเปญ
  4. Procter & Gamble: พัฒนาแพลตฟอร์มเอไอ ช่วยสร้างภาพถ่ายเสมือนจริง
เร่งการพัฒนาซอฟต์แวร์

เอไอด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ หลายองค์สามารถช่วยนักพัฒนาเขียนโค้ดได้เร็วขึ้น ปรับปรุงคุณภาพโค้ด และเรียนรู้ภาษาและฐานโค้ดใหม่ๆ ตัวอย่างเช่น

  1. Wayfair: ทดลองใช้ Code Assist ภายในองค์กร พบว่า วิศวกรซอฟต์แวร์ที่ใช้เอไอเขียนโค้ดสามารถทำงานได้รวดเร็วขึ้น 55% ประสิทธิภาพของโค้ดระหว่างการทดสอบยูนิตดีขึ้น 48%
  2. Seattle Children’s: โรงพยาบาลนำเอไอมาใช้เพื่อยกระดับผลผลิตด้านวิศวกรรมข้อมูล
  3. Capgemini: ใช้ Code Assist ทำให้วิศวกรซอฟต์แวร์เขียนโค้ดได้เสถียรมากยิ่งขึ้น
เสริมสร้างความปลอดภัย ปกป้องข้อมูลอย่างชาญฉลาด

องค์กรที่นำเอไอมาใช้ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ เอไอช่วยเรื่องตรวจจับภัยคุกคามบนโลกออนไลน์ เฝ้าระวังหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ปกป้องข้อมูลจากอาชญากร ตัวอย่างเช่น

  1. BBVA: ใช้เอไอใน Google SecOps ตรวจจับ สืบสวน และเฝ้าระวังต่อภัยคุกคามด้านความปลอดภัย ซึ่งมีความแม่นยำ รวดเร็ว และทำงานได้ดีขึ้น
  2. Behavox: ใช้เทคโนโลยี Google Cloud และ LLM (Large Language Models) วิเคราะห์พฤติกรรมสำหรับสถาบันการเงิน สามารถบริหารความเสี่ยง รักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของลูกค้าการเงิน
  3. Grupo Boticário: หนึ่งในบริษัทค้าปลีกด้านความงามและเครื่องสำอางที่ใหญ่ที่สุดในบราซิล ใช้งานโมเดลเอไอความปลอดภัยแบบเรียลไทม์ เพื่อป้องกันการทุจริต

ไบรอัน ฮอลล์ รองประธานฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ Google Cloud กล่าวว่า ภายในเวลาไม่กี่เดือน ลูกค้าที่ใช้คลาวด์ของกูเกิลเปลี่ยนจากเอไอตอบคำถาม ไปเป็นการใช้เอไอทำนายข้อมูล สู่การเกิดขึ้นของ “ตัวแทนเอไอ (AI agents)” ที่ทำงานเป็นผู้ช่วยจนลุล่วงเป้าหมายของผู้สั่งการ เช่น แนะนำรองเท้าที่เหมาะสมกับผู้ซื้อ ช่วยเหลือพนักงานที่กำลังมองหาสวัสดิการด้านสุขภาพ หรือสนับสนุนพยาบาลที่กำลังเปลี่ยนกะให้เป็นไปอย่างราบรื่น

“การทำงานร่วมกับลูกค้า องค์กรเน้นการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานให้เป็นระบบอัตโนมัติมากขึ้น โมเดลเจนเอไอหากได้รับการสนับสนุนการทำงานจากมนุษย์จะปลดล็อคทักษะของผู้ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ” ไบรอัน แสดงทัศนะ

แหล่งข้อมูล

https://www.bangkokbiznews.com/tech/gadget/1122731