Warning: Undefined array key "postid" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 24
Warning: Undefined array key "increase" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 25
Warning: Undefined array key "show_views_today" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 26
ที่ผ่านมา Apple ชูจุดเด่นด้านความปลอดภัยในการใช้งานอุปกรณ์ iOS ทั้ง iPhone และ iPad เป็นอย่างมาก โดยอาศัยอีโคซิสเต็มแบบปิด ทำให้ผู้ใช้งานต้องติดตั้งแอปพลิเคชันจาก App Store ของ Apple เท่านั้น ไม่สามารถติดตั้งแอปพลิเคชันจากแหล่งอื่น ๆ เหมือนที่สมาร์ตโฟน Android ทำได้
อย่างไรก็ตาม “ข้อจำกัด” ด้านการติดตั้งแอปบนอุปกรณ์ iOS อาจกำลังหมดไป และผู้ใช้งานอาจมีอิสระในการเลือกติดตั้งแอปจากแหล่งอื่น ๆ มากขึ้น เพราะมีการรายงานจาก Mark Gurman ซึ่งเป็นนักวิเคราะห์ที่ออกมาให้ข่าวเกี่ยวกับ Apple อย่างแม่นยำอยู่หลายครั้ง ให้ข้อมูลว่า Apple อาจกำลังพิจารณาให้ผู้ใช้งาน iPhone ติดตั้งแอปจากแหล่งที่มาอื่น ๆ โดยไม่จำเป็นตั้งจาก App Store เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ Apple ต้องทำเช่นนี้ เป็นเพราะกฎหมายใหม่ของสหภาพยุโรป Digital Market Act ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการผูกขาดของแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยจะมีผลบังคับใช้ในช่วงปีหน้านี้
และนั่นหมายความว่า Apple จะไม่สามารถปิดกั้น ให้ผู้ใช้งาน iPhone รวมถึงอุปกรณ์อื่น ๆ ต้องติดตั้งแอปจาก App Store เพียงแหล่งเดียวอีกต่อไป และจะต้องเปิดทางให้ผู้ใช้งานติดตั้งแอปจากแหล่งอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการดาวน์โหลดไฟล์มาติดตั้งโดยตรง (Sideload) หรือเปิดให้ติดตั้งจาก Store อื่น ๆ ที่ Apple ไม่ได้เป็นเจ้าของ
ส่วนในมุมของนักพัฒนาแอปแล้ว ก็ย่อมมีทางเลือกมากขึ้น จากการเปิดช่องทางติดตั้งแอปที่หลากหลาย โดยหากนักพัฒนาเลือกที่จะนำแอปไปอยู่บน Store อื่น ก็อาจช่วยหลีกเลี่ยงการเสียส่วนแบ่งรายได้ 30% ให้กับ Apple ได้
อย่างไรก็ตาม การเปิดอิสระในการติดตั้งแอปนี้ เป็นผลจากกฎหมายใหม่ ที่มีผลบังคับใช้เฉพาะในสหภาพยุโรปเท่านั้น และมีการคาดการณ์ว่า ในพื้นที่อื่น ๆ ทั่วโลก Apple จะบังคับให้ผู้ใช้งานติดตั้งแอป ได้จาก App Store เพียงแหล่งเดียวเช่นเดิม เพราะอย่าลืมว่า App Store เป็นแหล่งรายได้สำคัญของ Apple โดยเฉพาะ “ส่วนแบ่ง” รายได้ที่นักพัฒนา ต้องยอมจ่ายมากถึง 30% และ Apple ก็อาจไม่ได้พร้อมเสียรายได้ส่วนนี้ไปในทุกพื้นที่ทั่วโลก..
แหล่งข้อมูล
https://www.facebook.com/TechBite.tech/photos/a.103988409202622/121343457467117/