Warning: Undefined array key "postid" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 24
Warning: Undefined array key "increase" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 25
Warning: Undefined array key "show_views_today" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 26
Coca-Cola ประเทศญี่ปุ่น ได้ต่อยอดนโยบายลดขยะพลาสติก ด้วยการออกตู้กดน้ำ ที่ลูกค้าต้องพกขวดมาเอง โดยตู้กดน้ำดังกล่าว ถูกตั้งอยู่ที่ Universal Studios ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเป็นการทดสอบเริ่มแรก โดยจะมีการจ่ายน้ำอัดลม 2 ชนิด ที่มีทั้งอุณหภูมิร้อน, เย็น และอุณหภูมิห้อง
ทั้งนี้ ทาง Coca-Cola เป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำอัดลมรายใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งก็หมายถึงการเป็นบริษัทที่สร้างขยะพลาสติกมากเช่นกัน ทำให้ทางบริษัทถูกเรียกร้องจากองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมทั่วโลก ทำให้เมื่อไม่นานมานี้ ทางบริษัทออกมาประกาศว่า ตั้งเป้าจะใช้บรรจุภัณฑ์ที่ใช้ซ้ำได้กว่า 25% ของสินค้าทั่วโลก ภายในปี 2030
ดังนั้น เห็นได้ชัดว่าการเปิดตัวตู้กดน้ำ (Sparkling Water) ที่ Coca-Cola ในญี่ปุ่น ก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่จะบรรลุเป้าหมายในการลดการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติก
ส่วนที่ต้องเริ่มจากประเทศญี่ปุ่น เพราะญี่ปุ่น ถือเป็นประเทศที่มีการใช้งานตู้กดอัตโนมัติอย่างแพร่หลายอยู่แล้ว อีกทั้งยังมีปริมาณขยะจากขวดพลาสติกในประเทศถึง 6% เทียบกับปริมาณขยะชนิดอื่น ๆ ด้วย ซึ่งทาง Coca-Cola ในญี่ปุ่น ตั้งเป้าว่าจะมีตู้กดน้ำอัตโนมัตินี้ประมาณ 500 เครื่องภายในปี 2025
สำหรับราคาของการกดน้ำโซดาแต่ละครั้ง จะอยู่ที่ 60 เยน หรือประมาณ 16 บาท/ปริมาณน้ำ 500 มิลลิลิตร และสำหรับผู้ที่ไม่ได้พกภาชนะ หรือขวดมาเอง ทางตู้กดก็มีขวดขายในราคา 260 เยน (73 บาท) พร้อมกับน้ำที่เลือก และมีที่ล้างขวดน้ำให้มาด้วย
นอกจากตู้กดน้ำที่ Universal Studios แล้ว ตู้กดน้ำของ Coca-Cola ยังได้รับการติดตั้งที่โรงอาหารของพนักงานบริษัท Tiger Corp โดยในอนาคต ทางบริษัทระบุว่าอาจเพิ่มเครื่องดื่มชนิดใหม่ ๆ แต่ทางบริษัทจะไม่เพิ่มน้ำหวานลงไป เพราะต้องการที่จะรักษาความสะอาดของตู้
ซึ่งก็ต้องรอดูต่อไปว่า ทาง Coca-Cola จะมีการขยายโครงการไปยังประเทศอื่น ๆ ด้วยหรือไม่..
แหล่งข้อมูล
https://www.facebook.com/1387231808035873/posts/4813912428701110/