รถยนต์เปลี่ยนสีได้คันแรกของโลก เพียงแค่กดปุ่ม

Share

Warning: Undefined array key "postid" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 24

Warning: Undefined array key "increase" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 25

Warning: Undefined array key "show_views_today" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 26

Loading

BMW iX Flow รถยนต์คันแรกของโลกที่กดปุ่มเปลี่ยนสีรถได้ด้วยเทคโนโลยี E lnk การติดตั้งไมโครแคปซูลขนาดเล็กจำนวนหลายล้านชิ้น

บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำเปิดตัว BMW iX Flow รถยนต์คันแรกของโลกที่กดปุ่มเปลี่ยนสีรถได้ภายในงาน CES 2022 เมืองลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ตัวรถยนต์ถูกเคลือบด้วยเทคโนโลยี E lnk การติดตั้งไมโครแคปซูลขนาดเล็กเท่ากับเส้นผมมนุษย์จำนวนหลายล้านชิ้นไว้บริเวณผิวด้านนอกของรถยนต์ เมื่อได้รับคำสั่งไมโครแคปซูลจะทำการเปลี่ยนสีพร้อม ๆ กันทำให้สีด้านนอกของรถยนต์เปลี่ยนภายในไม่กี่วินาที

หลักการทำงานของไมโครแคปซูลใช้การทำงานร่วมกันของประจุไฟฟ้ากระตุ้นการแสดงสีของไมโครแคปซูลสีขาวที่เป็นประจุลบและสีดำที่เป็นประจุบวก กระแสไฟฟ้ากระตุ้นให้ไมโครแคปซูลแสดงสีสลับกันจนเกิดเป็นลวดลายต่าง ๆ แม้จะสามารถแสดงสีสันได้เพียงสีขาว สีดาวและสีเทา แต่นับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่เปลี่ยนแปลงรูปแบบของรถยนต์ในอนาคตที่ไม่ถูกจำกัดอยู่เพียงสีใดสีหนึ่ง

บริษัทเปิดเผยเพิ่มเติมว่าการเปลี่ยนสีของรถยนต์สามารถช่วยลดอุณหภูมิเมื่อรถยนต์ต้องจอดอยู่กลางแสงแดดจัดส่งผลต่อการใช้พลังงานไฟฟ้ากับเครื่องปรับอากาศภายในตัวรถยนต์ นอกจากนี้การเปลี่ยนสีรถโดยไมโครแคปซูลอาจสามารถใช้แสดงตัวอักษรหรือค่าตัวเลขต่าง ๆ บนตัวรถ เช่น สถานะการชาร์จพลังงานไฟฟ้าหรือข้อความแจ้งเตือนให้กับรถยนต์คันอื่น ๆ ทราบในอนาคต

เทคโนโลยี E lnk การเปลี่ยนสีรถยนต์ BMW iX Flow เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีล้ำสมัยภายในงาน CES 2022 นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์จากหลายบริษัทร่วมแสดงอีกมากมาย ซึ่งจุดเด่นของงานเป็นเทคโนโลยีรถยนต์พลังงานไฟฟ้าติดตั้งระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ

แหล่งข้อมูล

https://news.thaipbs.or.th/content/311492