IMD หรือ สถาบันนานาชาติเพื่อการพัฒนาการบริหาร แห่งสวิตเซอร์แลนด์ รวมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีและการออกแบบของสิงคโปร์ (SUTD) ได้ทำการสำรวจผลลัพธ์ของการใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาวิถีชีวิติของประชากร โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งได้ทำการเก็บข้อมูลในประเด็นหลัก คือ สุขภาพ ความปลอดภัย การเดินทาง กิจกรรม การส่งเสริมโอกาส และการบริหารงาน
โดยได้มีการเผยแพร่รายงานอันดับเมืองฉลาดที่สุดของโลกปี 2563 (Smart City Index 2020) ซึ่งเป็นการสำรวจความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างไม่ต่ำกว่า 13,000 คน ใน 109 ประเทศทั่วโลก ในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. 2563 พบว่า…
เมืองอัจฉริยะอันดับ 1 – 10 มีรายนามดังต่อไปนี้
1. สิงคโปร์ (รั้งอันดับ 1 เป็นสมัยที่ 2 ต่อเนื่องจากปีที่แล้ว)
2. เฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์
3. ซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
4. โอ๊กแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์
5. ออสโล ประเทศนอร์เวย์
6. โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
7. เจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
8. ไทเป ซิตี้ ประเทศไต้หวัน
9. อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
10. นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
ส่วน กทม. เมืองหลวงของประเทศไทย จัดอยู่อันดับที่ 71 ขยับขึ้นมาจากปีที่แล้ว 4 อันดับ ส่วนสามอันดับสุดท้ายได้แก่ อาบูจา ประเทศไนจีเรีย, ไนโรบี ประเทศเคนยา และลากอส ประเทศไนจีเรีย อยู่ 3 อันดับสุดท้ายของตาราง
ซึ่งรายงานนี้ยังได้มีการระบุอีกว่า หากมองให้เรื่องของการบริหารจัดการเมืองอัจฉริยะนั้น เมืองที่มีขนาดเล็กจะได้เปรียบเมืองใหญ่ เพราะสามารถที่จะลงทุนด้านเทคโนโลยีไปแล้วประชาชนจะได้ใช้ประโยชน์อย่างทั่วถึง
ผู้บริหารสถาบัน IMD ยังระบุว่า ความชัดเจนของโลกในปัจจุบันนี้คือเรื่องของวิกฤติด้านสุขอนามัย และตามมาด้วยเรื่องของปัญหาเศรษฐกิจและสังคม สำหรับเมืองที่มีการนำเอาเทคโนโลยีเข้าไปผสมผสานกับวัฒนธรรมการใช้ชีวิตของผู้คน ตลอดจนภาวะผู้นำและการให้ความร่วมมือกันภายในประเทศ จะเป็นสิ่งที่ทำให้เมืองผ่านพ้นวิกฤติต่าง ๆ ไปได้
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
www.thairath.co.th
เครดิตรูปภาพ
www.pixabay.com