Google เปิดตัว Gemini มาแทน Bard

Share

Loading

ตั้งแต่วันที่ 8-02-2024 Bard ของ Google ได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Gemini และเริ่มเปิดรับสมาชิกสำหรับโมเดลที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า คือ Gemini Advanced ค่าสมาชิก $20/เดือน Bard ที่เปลี่ยนชื่อเป็น Gemini ยังมีให้ใช้ฟรีเหมือนเดิม มีคำสั่งให้สร้างภาพได้ฟรีด้วย

ซันดาร์ พิชัย นายใหญ่ Google และ Alphabet เปิดเผยว่า AI เป็นหนทางเดียวที่ดีที่สุดในการปรับปรุง Search และผลิตภัณฑ์ทุกตัวของบริษัท

ก่อนที่คนทั่วโลกจะรู้จัก OpenAI ใครๆก็คาดหมายว่า Google จะมี AI ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด แต่ ChatGPT ของ OpenAI ซึ่งวันนี้มีหุ้นส่วนใหญ่เป็น Microsoft ทำให้ความคิดของคนส่วนจำนวนมากเปลี่ยนไป

นับตั้งแต่วันที่ 30-11-2022 หลังการเปิดตัว ChatGPT ที่สามารตอบคำถามทุกเรื่องได้เหมือนคน ทำให้คนตัวโลกตื่นตัวกับ Generative AI อย่างมาก ในปัจจุบันอาจมีการพัฒนากันมากกว่าหนึ่งพันโมเดลทั่วโลก

มีการประเมินว่าการเกิดของ Generative AI จะยิ่งใหญ่เหมือนตอนโลกเริ่มมี Internet ความตื่นเต้นจะใกล้กับปี 2007 ที่โลกเริ่มรู้จัก Smartphone

ในปี 2007 Apple เปิดตัวสมาร์ทโฟนก่อน มี iOS ของ iPhone โดยเฉพาะ แต่หลังจากนั้นในปีเดียวกัน Google ก็เปิดตัว Android และปัจจุบันมีผู้ใช้ Android มากกว่า iOS

ยังไม่มีใครรู้แน่ชัดว่า Google จะเป็นผู้ชนะในตลาด Generative AI หรือไม่?

ก่อนที่ Gemini จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ Google อ้างว่า AI ของ Gemini มีประสิทธิภาพเหนือกว่า GPT-4 ของ OpenAI ทำงานได้ดีกว่าเกือบทุกด้าน

Gemini Advanced ซึ่งสามารถใช้งานได้ภายใต้เงื่อนไขสมาชิกรายเดือน ใช้เทคโนโลยีโมเดล Ultra 1.0 โดยกูเกิลอ้างว่าเป็น AI รุ่นแรกที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่าผู้เชี่ยวชาญที่เป็นมนุษย์ด้าน MMLU หรือ Massive Multitask Language Understanding ซึ่งมีความสามารถใช้วิชาผสม 57 วิชา

หมายความว่า Gemini Advanced มีความรู้และความสามารถในการแก้ปัญหา โดยทดสอบแล้วได้คะแนนมากกว่าผู้เชี่ยวชาญ 57 วิชา ซึ่งรวมถึง คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ ประวัติศาสตร์ กฎหมาย การแพทย์ และจริยธรรม

ตอนนี้ผู้ใช้งานที่เป็นสมาชิก Gemini Advanced จะได้เริ่มพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพเป็นไปตามการกล่าวอ้างมากน้อยแค่ไหน

Google กำลังพัฒนา Gemini ไปในทิศทางเดียวกับ ChatGPT ซึ่งเป็นคู่แข่งที่สำคัญที่สุด

Gemini สร้างข้อความ สร้างภาพ สร้างโค้ด มีความคิดสร้างสรรค์ในตัวเอง

ChatGPT มี GPT Store แล้ว หากต่อไปจะมี Gemini Store บ้าง ก็คงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ

Google ไม่เคยเปิดเผยตามตรงว่า ทำไมใช้ชื่อโมเดลปัญญาประดิษฐ์ของตัวเองว่า Gemini

ชื่อ Gemini อาจมีแรงบันดาลใจทางโหราศาสตร์ เพราะเป็นความหมายของ “ราศีเมถุน” ซึ่งเกี่ยวข้องกับสติปัญญา การสื่อสาร และความสามารถในการปรับตัว ซึ่งมีสัญลักษณ์ของฝาแฝด สื่อความหมายถึงความชำนาญหลายด้าน ซึ่งสะท้อนจุดแข็งของ Gemini โดยตรง

แหล่งข้อมูล

https://www.facebook.com/photo/?fbid=843680684437276&set=a.687193000086046