e-Revolt สตาร์ทอัพสัญชาติเยอรมัน เปลี่ยนรถยนต์เบนซินให้เป็น EV

Share

Loading

e-Revolt สตาร์อัพจากเยอรมนีใช้เทคนิคเปลี่ยนรถยนต์เบนซินให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้า และสามารถรองรับแบตเตอรี่ในรถยนต์กระแสหลักได้ถึง 42 รุ่น ที่สำคัญยังช่วยลดเวลาการแปลงร่างดังกล่าวจากระยะเวลาเป็นเดือนเหลือแค่ 8 ชั่วโมงได้

แม้จะมีผู้เล่นมากหน้าหลายตาที่ทยอยแนะนำรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง แต่ดูเหมือนว่าค่าใช้จ่ายของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ยังมักถูกอ้างถึงว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่เจ้าของรถเลือกที่จะใช้รถยนต์เบนซินคันเดิมต่อไป แทนที่จะตัดสินใจซื้อ EV

คำถามคือ จะเป็นอย่างไร ถ้าหากยังคงใช้รถยนต์คันเดิม โดยที่เป็นมิตรสิ่งแวดล้อมด้วย ไม่ต้องซื้อ EV ที่ราคาเกินเอื้อม คำตอบคือก็ปฏิบัติการแปลงร่างมันเสียเลยสิ!

ทั้งนี้ การแปลงยานพาหนะที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ไม่ใช่แนวคิดใหม่ โดยหลักการดังกล่าวยังถูกนำไปใช้กับรถยนต์ยุคเก่า เพื่อให้เหมาะกับวัตถุประสงค์ในยุคสมัยใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม กระบวนการนี้อาจเป็นเรื่องยาก โดยบริษัทต่างๆ ที่มีอยู่ในขณะนี้ จะใช้เวลาตั้งแต่ 2 สัปดาห์ถึง 6 เดือน เพื่อดำเนินงานที่จำเป็นในการเปลี่ยนรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) เป็น EV แต่ด้วยขั้นตอนการทำงานและการออกแบบแบตเตอรี่แบบใหม่ e-Revolt สตาร์ทอัพในเยอรมนีเชื่อว่าสามารถลดเวลารอของลูกค้าลงเหลือเพียง 8 ชั่วโมงได้ และความแตกต่างอีกประการคือในขณะที่บริษัทส่วนใหญ่ที่ทำการแปลง ICE เป็น EV มีความเชี่ยวชาญด้านรถยนต์คลาสสิกระดับไฮเอนด์แต่ e-Revolt มุ่งเป้าไปที่ยานพาหนะทั่วไป

“เทคโนโลยีของเราช่วยให้ลูกค้าสามารถอัพเกรดรถที่มีอยู่ให้เป็นรถในฝันที่ใช้ไฟฟ้าแบบดิจิทัลได้เต็มรูปแบบ รถยนต์ที่อัปเกรดของคุณจะเป็นแบตเตอรี่ไฟฟ้า มีการเชื่อมต่อเต็มรูปแบบ และติดตั้งอินเทอร์เฟซดิจิทัลที่ล้ำสมัย ระบบอินโฟเทนเมนต์ใหม่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงฟังก์ชัน EV ได้อย่างเต็มที่ เช่น ระยะทางที่เหลือและการควบคุมการชาร์จ ฯลฯ” ซีอีโอ e-REVOLT กล่าว

e-REVOLT สามารถแปลงรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปที่ใช้งานอยู่แล้วให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่เชื่อมต่อได้ วิธีนี้ช่วยเพิ่มการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดและลดของเสียให้เหลือน้อยที่สุด จึงถือทางเลือกที่ประหยัด แทนที่จะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ เพราะบริษัทฯ เชื่อว่าการใช้ยานพาหนะที่มีอยู่ต่อไปและรักษารถยนต์แต่ละคันไว้เป็นส่วนสำคัญของระบบนิเวศการคมนาคมที่ยั่งยืน

ไม่เพียงเท่านั้น ยังสามารถแปลงรถยนต์เบนซินจากผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ได้ถึง 42 รุ่น รวมถึง Volkswagen Golf and Polo, Audi A3 และ Seat Leon ด้วยชุดอุปกรณ์ขนาดเดียวที่เหมาะกับทุกคัน

นี่อาจฟังดูดีเกินกว่าที่จะเป็นจริงสำหรับหลายๆ คน แต่วิธีที่ e-Revolt เข้าถึงกระบวนการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่เริ่มต้นนั้น อาจเรียกได้ว่าเป็นแนวทางที่แตกต่างจากบริษัทอื่นๆ

“มันเป็นการผลิต นั่นหมายความว่าคุณต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้เร็วขึ้นและง่ายขึ้น แต่วิธีนี้จะได้ผลก็ต่อเมื่อคุณมีปริมาณมากเท่านั้น เพราะคุณต้องทุ่มทั้งงานและเงินจำนวนมากเพื่อพัฒนาทั้งหมดนี้ล่วงหน้า แต่ในภายหลัง คุณสามารถประหยัดเวลาและเงินได้ และนี่คือความแตกต่าง คุณต้องมีวิธีแก้ปัญหาที่จริงจัง” Rolf Behling กรรมการผู้จัดการและหัวหน้าด้านเทคนิคของ e-Revolt ระบุ

แล้วมันทำงานอย่างไร และเหตุใดระยะเวลาดำเนินการจึงสั้นมากเมื่อเทียบกับโซลูชันที่มีอยู่

“เรานำเครื่องยนต์สันดาปออกมา และเรามีเฟรมที่ใช้พอยท์ (สวิตช์ไฟฟ้าชนิดหนึ่งที่พบในระบบจุดระเบิดของเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ใช้การจุดระเบิดด้วยประกายไฟ) เก่าของเครื่องยนต์ เป็นการเปลี่ยนระบบส่งกำลังเก่าด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าใหม่ช่วยให้รถมีชีวิตที่สอง และช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าสู่ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าได้ในราคาไม่แพง ดังนั้นด้วยวงจรนวัตกรรมที่สั้นมากของ e-REVOLT ช่วยให้ยานพาหนะที่มีอยู่ได้รับการอัพเกรดด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลล่าสุดอย่างสม่ำเสมอ และด้วยการใช้หลักการเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ 80% ของยานพาหนะจึงถูกนำมาใช้ซ้ำ ซึ่งช่วยประหยัดทั้งเงินและทรัพยากรอันมีค่า ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการเดินทางได้อย่างมาก” Timo Walden ผู้จัดการโครงการของ e-Revolt และหนึ่งในนักลงทุนรายแรกของบริษัทอธิบาย

สำหรับรถยนต์เบนซินที่ต้องการแปลงร่างสู่ EV โดย e-Revolt สถานะของยานพาหนะนั้นจะได้รับการประเมินอย่างละเอียดล่วงหน้า เพื่อให้แน่ใจว่ามีความเป็นไปได้ในการอัพเกรด การตรวจสอบที่ครอบคลุมประกอบด้วยการตรวจสอบรุ่นรถทางออนไลน์ ตลอดจนการตรวจสอบทางกายภาพที่ดำเนินการโดยหนึ่งในศูนย์บริการที่ได้รับการรับรองภายในเครือข่ายที่กว้างขวาง กระบวนการประเมินที่พิถีพิถันนี้รับประกันว่ารถยนต์เบนซินคันนั้นจะมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดที่จำเป็นสำหรับการอัพเกรด ทำให้มั่นใจได้ว่าการเปลี่ยนแปลงให้เป็น EV เป็นไปอย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จ

อย่างไรก็ตาม ราคาในการดำเนินการการแปลงนี้เริ่มตั้งแต่ 12,000-15,000 ยูโร (ราว 462,9730-578,717 บาท) ซึ่งที่จริงก็ไม่ใช่ราคาที่ถูกเลย แต่เมื่อเทียบกับราคา EV ที่จำหน่ายในยุโรป ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 24,425 ยูโร (ราว 942,380 บาท) สำหรับ Citroen e-C3 ก็นับว่ามีส่วนต่างที่ชัดเจน อาจเพียงพอที่จะดึงดูดใจให้เจ้าของรถตัดสินใจเป็นลูกค้า e-Revolt ได้ไม่ยาก

แหล่งข้อมูล

https://www.salika.co/2023/12/12/ev-erevolt-germany-startup/