Kyndryl Bridge แพลตฟอร์มสุดเจ๋ง ใช้ AI และ Data ช่วยธุรกิจลดค่าใช้จ่าย

Share

Loading

Kyndryl Bridge แพลตฟอร์มสุดเจ๋งที่ใช้ AI และ Data ที่ช่วยเพิ่มพลังขับเคลื่อนศักยภาพทางธุรกิจให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ช่วยลูกค้ากลุ่มแรกเริ่ม ประหยัดได้มากกว่า 34,000 ล้านบาท (1 พันล้านดอลลาร์) ต่อปี

Kyndryl Bridge (คินดริล) ผสานปัญญาประดิษฐ์ (AI), ข้อมูล (Data) และความเชี่ยวชาญเชิงลึกในอุตสาหกรรม ยกระดับการจัดการบริการด้านเทคโนโลยีรูปแบบใหม่

Kyndyrl ผู้ให้บริการระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศว่าองค์กรระดับโลกมากกว่า 500 ราย ดำเนินงานบน Kyndryl Bridge โดยคาดว่าจะมีลูกค้ามากกว่า 1,000 รายภายในสิ้นปีงบประมาณนี้

ทั้งนี้ Kyndryl Bridge คือ แพลตฟอร์มบริการเทคโนโลยีบูรณาการแบบเปิดแห่งแรกของอุตสาหกรรม ที่ผสานรวมปัญญาประดิษฐ์ (AI) ข้อมูลการดำเนินงาน และความเชี่ยวชาญของคินดริลเข้าด้วยกันแบบไร้รอยต่อ เพื่อมอบแนวทางใหม่ในการดำเนินการระบบขององค์กรและยังส่งมอบผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดีขึ้นให้แก่ลูกค้า

ในฐานะผู้ให้บริการระบบโครงสร้างพื้นฐานและบริการการจัดการอันดับหนึ่งของโลก คินดริลได้ผสานรวม/บูรณาการปัญญาประดิษฐ์ (AI) และแมชชีนเลิร์นนิง (ML) เข้ากับระบบภารกิจหลัก (Mission-critical systems) ที่จำเป็นต่อการอยู่รอดขององค์กร

นอกจากนี้ คินดริล ยังได้นำความเชี่ยวชาญ รวมถึงทรัพย์สินทางปัญญา สิทธิบัตร ทักษะ และประสบการณ์เชิงลึกในอุตสาหกรรมเพื่อเร่งการส่งมอบนวัตกรรมและบริการใหม่ ๆ เพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้าที่คาดหวังว่าจะได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่เพื่อพลิกโฉมการดำเนินงานของพวกเขา

Kyndryl Bridge ประมาณการว่าได้ช่วยให้ลูกค้ากลุ่มแรกเริ่ม ลดค่าใช้จ่ายต่อปีได้มากกว่า 34,000 ล้านบาท (1 พันล้านเหรียญสหรัฐ) ซึ่งรวมถึง:

  • สามารถลดค่าใช้จ่าย 670 ล้านดอลลาร์ต่อปี จากการป้องกันสถานการณ์ไม่พึงประสงค์หลายพันสถานการณ์ก่อนที่จะเกิดขึ้น
  • สามารถลดค่าใช้จ่าย 370 ล้านดอลลาร์ต่อปี จากการลดช่วงระยะเวลาในการบำรุงรักษาซอฟแวร์ที่จำเป็น

“Kyndryl Bridge เข้ามาพลิกโฉมวิธีการที่ ผู้บริหารฝ่ายกลยุทธ์ด้านการสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อสินค้าและบริการ (CXOs) จัดการระบบเทคโนโลยีที่ซับซ้อนมากขึ้นของพวกเขา” มาร์ติน ชโรเตอร์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารแห่งคินดริล กล่าว

“แพลตฟอร์มที่ให้บริการเทคโนโลยีบูรณาการแบบเปิดอันแตกต่าง ซึ่งขับเคลื่อนด้วย AI นี้ จะเร่งการทำงานของระบบอัตโนมัติ และขับเคลื่อนองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนสร้างการดำเนินงานที่ยั่งยืนมากขึ้น ช่วยให้บริษัทต่าง ๆ บรรลุเป้าหมายด้านการเติบโตและมอบผลประโยชน์ที่ดีที่สุดให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของบริษัท”

แพลตฟอร์มแบบบูรณาการเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล

Kyndryl Bridge เปิดตัวในเดือนกันยายน 2565 โดยเป็นส่วนหนึ่งของความคิดริเริ่ม Advanced Delivery หนึ่งในกลยุทธ์หลัก Three-A ของคินดริล โดยเป็นแพลตฟอร์มที่ได้พัฒนาขึ้นจากความเชี่ยวชาญหลายทศวรรษของบริษัทในการจัดการสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนและมีความสำคัญต่อภารกิจหลักที่จำเป็นต่อการอยู่รอดขององค์กร โดยมีสภาพแวดล้อมการดำเนินงานในรูปแบบของการบริการ (‘as-a-service’) ซึ่งรวมถึง แพลตฟอร์มสำหรับซื้อขายของบนโลกออนไลน์ที่เจ้าของเป็นผู้ขายรายเดียว (Single marketplace), ส่วนเฝ้าคุมหรือคอนโซลการจัดการการดำเนินงาน และเครื่องวิเคราะห์ AI และ ML

“การนำแพลตฟอร์มการจัดการแบบมัลติคลาวด์มาปรับใช้ภายในองค์กร เพื่อควบคุมทรัพยากรทั้งหมดที่วางระบบไว้ภายในองค์กรและบนคลาวด์ เป็นสิ่งจำเป็นที่สำคัญยิ่งสำหรับองค์กรในการย้ายและปรับปรุงเทคโนโลยีให้ทันสมัยเพื่อเข้าไปสู่ระบบคลาวด์ในช่วงที่จะเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจดิจิทัล“ เดวิด แทปเปอร์ รองประธานโปรแกรมจัดจ้างภายนอกและบริการคลาวด์ แห่ง บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล ดาต้า คอร์ปอเรชั่น (IDC) กล่าว

“การใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มการจัดการแบบมัลติคลาวด์อย่าง Kyndryl Bridge สามารถช่วยเหลือผู้ให้บริการคลาวด์แบบสาธารณะ การพัฒนาและกระบวนการปรับใช้เป็นไปโดยอัตโนมัติ เร่งการสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจ และจัดให้เห็นการทำงานด้านเทคโนโลยีที่ครอบคลุม ในขณะเดียวกันก็ใช้  AI เพื่อขับเคลื่อนประสิทธิภาพและปรับการใช้ให้สอดคล้องกับความต้องการเฉพาะของผู้ใช้ และใช้ FinOps เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายของทรัพยากรคลาวด์อย่างทั่วถึง วางแผนค่าใช้จ่ายให้กับหน่วยธุรกิจ คาดการณ์การใช้จ่ายและจัดทำงบประมาณ การใช้ Kyndryl Bridge จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายเหล่านี้”

พันธมิตรที่ร่วมสร้างนวัตกรรมบน Kyndryl Bridge

นอกจากนี้ คินดริลและพันธมิตรด้านเทคโนโลยีกำลังร่วมมือกันเพื่อเร่งความเร็วและส่งมอบข้อมูลเชิงลึกและนวัตกรรมแบบเรียลไทม์ครอบคลุมทั้งระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ

“เรากำลังร่วมสร้างนวัตกรรมกับคินดริลเพื่อพัฒนาโซลูชั่นใหม่ที่ช่วยให้ลูกค้าได้รับทั้งความสามารถในการมองเห็นข้อมูลและมูลค่าที่มากขึ้นจากฐานข้อมูลที่พวกเขามีอยู่ในระบบ และการลงทุนด้านเทคโนโลยี” จอห์น เกรย์ ผู้อำนวยการพอร์ตโฟลิโอ Global Systems Integrators ของอะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (AWS) กล่าว

“ด้วยการผสานรวมระหว่างความเชี่ยวชาญอันยาวนานในการประยุกต์อัจฉริยะของคินดริล กับดาต้า เลค (Data Lake) หรือที่จัดเก็บข้อมูลที่มาจากหลากหลายแหล่ง และบริการแมชชีน เลิร์นนิ่ง (Machine Learning) ขนาดใหญ่ของ AWS พวกเรากำลังทำงานเพื่อให้บริการลูกค้าร่วมของเราได้ดียิ่งขึ้น และช่วยให้ลูกค้าใช้ประโยชน์จากข้อมูลภายในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยใช้ข้อมูลที่มีอยู่มหาศาลมาประกอบการตัดสินใจทางธุรกิจ ซึ่งจะช่วยในการขับเคลื่อนการพลิกโฉมธุรกิจ”

“เรากำลังทำงานร่วมกับคินดริลเพื่อลดความซับซ้อนและเร่งการเปลี่ยนแปลงให้ลูกค้าของเรา” สเตฟฟี่ คูเบลอร์ รองประธานอาวุโสและหัวหน้าฝ่าย Business and Data Transformation Solutions ของ SAP กล่าว “เริ่มต้นด้วยเทคนิคใหม่ในการย้ายข้อมูลและระบบอัตโนมัติเพื่อลดระยะเวลาของโครงการ เรานำเสนอมุมมองแบบองค์รวมของปริมาณงาน SAP และปริมาณงานที่ไม่ใช่ SAP พร้อมกันในครั้งเดียวซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าเข้าใจและได้ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญจากข้อมูลขององค์กรพวกเขา”

“การรวมกันของบริการ Kyndryl Bridge และบริการ Red Hat OpenShift และ Red Hat Ansible Automation Platform ช่วยให้ลูกค้าออกแบบ ปรับใช้ และเร่งโครงการการเปลี่ยนแปลงระบบคลาวด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สิ่งนี้ยังช่วยให้ลูกค้าใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศที่มีศักยภาพได้ง่ายขึ้น ทั้งช่วยให้มองเห็นและควบคุมการใช้งานแอปพลิเคชันได้อย่างชัดเจน และจัดการค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การทำงานร่วมกันของ Red Hat และคินดริล ช่วยให้ลูกค้าปลดล็อกมูลค่าของการลงทุนด้านเทคโนโลยีได้เร็วขึ้น เพื่อผลลัพธ์ทางธุรกิจที่แท้จริง” สเตฟานี่ ชีราส รองประธานอาวุโสฝ่าย Partner Ecosystem Success ของ Red Hat กล่าว

การเร่งขยายการให้บริการ

Kyndryl Bridge เตรียมพร้อมเปิดใช้งานบริการรูปแบบดิจิทัลเกือบ 190 รายการบน Kyndryl Bridge ภายในสิ้นปีงบประมาณปัจจุบัน (มีนาคม 2567) คินดริลขับเคลื่อนนวัตกรรม AI และขยายการบริการทั้งในแนวลึก และในแนวกว้าง เพื่อให้ลูกค้าได้รับผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดีขึ้น อาทิ

บรรลุผลลัพธ์ด้วยการขับเคลื่อนของ AI – เพิ่มหลากหลายบริการที่จะช่วยปลดล็อกโอกาสที่ยิ่งใหญ่ขึ้นให้ลูกค้าของเรา จัดการและสร้างแบบจำลองข้อมูล และส่งมอบผลลัพธ์เฉพาะอุตสาหกรรม เริ่มตั้งแต่การเปิดใช้หลักเกณฑ์และวิธีการผลิตตามแนวทางอุตสาหกรรมอัจฉริยะ 4.0 และการลดความเสี่ยงด้านคุณภาพการผลิต ไปจนถึงการระบุตลาดใหม่เพื่อพัฒนาและขายผลิตภัณฑ์ด้วยการประมวลผลจากข้อมูลจำนวนมหาศาล พร้อมตอบสนองภัยคุกคามทางไซเบอร์และปฏิบัติตามข้อกำหนดมากขึ้น – บริการใหม่ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุนด้านความปลอดภัยขององค์กร ตั้งแต่การรวมข้อมูลเพื่อป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ กระบวนการจัดการทางธุรกิจหรือเวิร์กโฟลว์ (workflows) สำหรับสถานการณ์ที่เป็นภัยคุกคามต่อระบบ และการพิจารณาการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านข้อมูลในระดับท้องถิ่นและระดับโลก

บรรลุเป้าหมายการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ – ระบบอัจฉริยะด้านความยั่งยืนและเครื่องคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon footprint) ที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะวัดการใช้พลังงานและข้อมูลการปล่อยมลพิษแบบเรียลไทม์ เพื่อช่วยลูกค้าในการวิเคราะห์ จำลอง คาดการณ์ และสร้างคำแนะนำที่นำไปปฏิบัติได้จริงเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานทั่วระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ

แหล่งข้อมูล

https://www.springnews.co.th/digital-tech/technology/841470