Warning: Undefined array key "postid" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 24
Warning: Undefined array key "increase" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 25
Warning: Undefined array key "show_views_today" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 26
ไม่นานมานี้มีข่าวลือว่า TikTok กำลังส่อแววถูกถอดออกจาก App Store และ Play Store หลังจากมีรายงานว่า มีพนักงานรายหนึ่งของ TikTok สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของของผู้ใช้ในสหรัฐฯ ได้..
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด TikTok ได้มีการยืนยันว่าทางแอปพลิเคชันกำลังดำเนินการเพิ่มความปลอดภัยให้กับข้อมูลของผู้ใช้ ผ่านโปรเจ็กต์ที่ชื่อว่า “Project Texas” โดยโปรเจ็กต์ดังกล่าว จะเป็นการปรับปรุงระบบและการควบคุมข้อมูลต่าง ๆ ในแอปพลิเคชันให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้เป็นไปตามข้อตกลงกับทางรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ต้องการให้ TikTok ปกป้องข้อมูลของผู้ใช้ในสหรัฐฯ เพื่อให้ไม่เป็นการกระทบต่อความมั่นคงของชาติ..
ซึ่งทาง TikTok มั่นใจว่า Project Texas นั้น จะช่วยสร้างความไว้วางใจให้กับผู้ใช้ และคลายความกังวลต่อปัญหาดังกล่าวได้ โดยก่อนหน้านี้ TikTok ได้มีการทำข้อตกลงกับทางรัฐบาลสหรัฐฯ ไว้ว่า จะมีการย้ายฐานข้อมูลของผู้ใช้ในสหรัฐฯ ทั้งหมดไปไว้บนคลาวด์ของ Oracle ผู้ให้บริการฐานข้อมูลชั้นนำจากสหรัฐอเมริกา และด้วยขั้นตอนที่ซับซ้อนและปริมาณข้อมูลอันมหาศาลนี่เอง จึงทำให้ TikTok ต้องออกมายอมรับว่าในขั้นตอนการย้ายข้อมูล อาจมีช่องโหว่ที่ทำให้ยังมีพนักงานบางคน สามารถเข้าถึงชุดข้อมูลดังกล่าวได้..
อย่างที่เราทราบกันว่าจุดเด่นของ TikTok ก็คือระบบ AI ที่จะนำข้อมูลจากผู้ใช้มาประมวลผล เพื่อปรับปรุงฟีดให้เข้ากับความชอบของผู้ใช้แต่ละคน แต่หลังจากข้อตกลงกับทางสหรัฐฯ จะส่งผลให้ระบบ AI ของ TikTok นั้น ต้องประมวลผลจากข้อมูลที่ถูกเก็บอยู่บนคลาวน์ของ Oracle เท่านั้นอีกด้วย..
น่าสนใจว่าเรื่องราวการถอด TikTok ออกจาก App Store และ Play Store จะจบลงอย่างไร เพราะแต่เดิมมีเอกสารประกอบระบุว่า คณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารของสหรัฐฯ (FCC) จะให้เวลา Apple, Google ในการพิจารณาแบนแอป TikTok ออกจาก App Store และ Play Store จนถึงวันที่ 8 ก.ค. นี้เท่านั้น และถ้าทั้งสองไม่ดำเนินการแบนอะไรสักอย่าง ก็ต้องชี้แจงเหตุผล ที่สมเหตุสมผล..
แหล่งข้อมูล
https://www.facebook.com/MarketThinkTH/photos/a.1393665140725873/5179265958832420/