ดูไบ ทำฟาร์มแนวตั้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ฟาร์มแนวตั้งคืออะไร?

Share

Warning: Undefined array key "postid" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 24

Warning: Undefined array key "increase" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 25

Warning: Undefined array key "show_views_today" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 26

Loading

ดูไบ สร้างฟาร์มแนวตั้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก นวัตกรรมการเกษตรรูปแบบใหม่ ที่จะมาช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนทรัพยากรและพื้นที่การเกษตรที่มีจำกัด ฟาร์มแนวตั้งคืออะไร?

ทุกวันนี้ จำนวนของประชากรมนุษย์บนโลกกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว สวนทางกับทรัพยากรบนโลกที่ลดลงไปทุกวัน และมันเติบโตเร็วจนคาดว่าจะเกินกำลังการผลิตอาหารของมนุษย์ในอีก 30 ปีข้างหน้า ท่ามกลางสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ผู้คน 10 พันล้านคนจะมีน้ำใช้น้อยลงและมีพื้นที่เพาะปลูกน้อยลง จำได้ไหมที่นักวิทย์เคยมีการคาดการณ์ไว้ว่า น้ำจะท่วมเมื่อใหญ่ในไม่กี่สิบปีข้างหน้านี้ เรื่องนี้ไม่เกินจริงเลย

มนุษย์เราจะมีพื้นที่ใช้สอยน้อยลง เมื่อความต้องการอาหารเพิ่มมากขึ้นตามกำลังของประชากรโลก เราจะต้องบุกถางพื้นที่ป่าเพื่อให้ได้ในสิ่งที่เราต้องการ และยิ่งเราถลำลึกลงไปเท่าไหร่ แน่นอนว่ามันก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการอยู่ดี แม้ว่าวิถีมนุษย์จะเปลี่ยนไปอยู่บบนตึกสูงกันมากขึ้น

เมื่อเราต้องเผชิญกับทรัพยากรที่น้อยลงเช่นนี้ แน่นอนสิ่งที่จะมาช่วยแก้ไขได้คือนวัตกรรมสมัยใหม่ เพื่อหาทางออกให้ความต้องการเหล่านี้ที่มีแต่จะเพิ่มขึ้น การเกษตรสำคัญมากในยุคปัจจุบัน ไม่ใช่เพียงหน้าต่างเพื่อบ่งบอกอาชีพกลางแจ้งเท่านั้น แต่เกษตรกรกำลังกลายเป็นกำลังสำคัญของชาติ ในการผลิตวัตถุดิบประกอบอาหารเพื่อเลี้ยงคนทั้งโลก และเราจะแก้ปัญหานี้ได้ด้วยนวัตกรรมการเกษตรแบบใหม่ ‘การทำฟาร์มแนวตั้ง’

ฟาร์มแนวตั้งคืออะไร

ฟาร์มแนวตั้งเป็นกระบวนการทางการเกษตรที่พืชผลจะสามารถปลูกทับซ้อนกันเป็นชั้น ๆ สูงขึ้นไป แทนที่จะปลูกพืชผลในแนวราบแบบเดิม การปลูกแนวตั้งจะทำให้เราประหยัดพื้นที่และทรัพยากรลงไปได้เยอะ รวมไปถึงเราจะสามารถควบคุมการเจริญเติบโตของพืชได้และปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งฟาร์มแนวตั้งส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในอาคาร เช่น โกดัง ที่สามารถเข้าถึงและควบคุมสิ่งแวดล้อมการเติบโตของพืชได้อย่างง่ายดาย

ฟาร์มแนวตั้งอาจไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับประวัติศาสตร์

ในความเป็นจริง แนวคิดของฟาร์มแนวตั้งนั้นไม่ได้เกิดขึ้นในยุคสมัยปัจจุบัน แต่เกิดขึ้นเมื่อ 2,500 ปีก่อนโดยชาวบาบิโลนที่เป็นต้นแบบของการเกษตรขั้นสูงในยุคสมัยนั้น ด้วยการที่พวกเขาได้สร้างสวนลอยฟ้า ซึ่งเป็นต้นแบบของการทำฟาร์มแนวตั้งนี้เอง เพื่อต่อสู่กับสภาพแวดล้อมของยุคสมัยที่ไม่แน่นอน อีกทั้งแนวคิดดังกล่าวยังประสบความสำเร็จ เลี้ยงดูประชากรได้แม้จะต้องเผชิญกับสภาพอากาศรุนแรงก็ตาม

นอกจากนี้ 1000 ปีก่อน ในสังคมของชาว Mesoamerican Aztec ซึ่งเป็นชาวโบราณและมีความเป็นนักรบในอดีต ก็ได้เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกรูปแบบการปลูกพืชแบบไฮโดรโปนิกส์ ซึ่งเป็นศาสตร์การปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน แต่เป็นการปลูกบนแพที่ลอยอยู่เหนือแม่น้ำและก้นทะเลสาบตื้น ที่เต็มไปด้วยสารอาหาร

ความแพร่หลายของฟาร์มแนวตั้ง และฟาร์มที่ใหญ่ที่สุดในดูไบ

หลายประเทศเริ่มเดินหน้าหาความยั่งยืนทางการเกษตรกันมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศที่ขาดแคลนทรัพยากรดั้งเดิมมากที่สุดอย่างดูไบ ซึ่งหากคุณเดินเข้าไปในร้านขายของชำ ผักและอาหารที่วางไว้บนชั้นวางส่วนใหญ่มาจากยุโรปและสหรัฐฯ เนื่องจากพื้นที่เพาะปลกและน้ำมีจำกัดที่นี่ ทำให้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์นำเข้าอาหารประมาณ 90%

ด้วยเหตุนี้จังเป็นที่มาของฟาร์มแห่งใหม่ที่ใช้แนวคิดของฟาร์มแนวตั้ง ในโกดังใกล้สนามบินดูไบ ที่โกดังฟาร์มแห่งนี้กำลังเติบโตมากกว่า 2 ล้านปอนด์ต่อปีด้วยการปลูกผักใบเขียวเท่านั้น

ฟาร์มแห่งนี้ถูกเรียกว่า ECO 1 เป็นฟาร์มแนวตั้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยพื้นที่กว่า 330,000 ตารางฟุตที่ซ้อนกันด้วยชั้นวางผักกาดหอม ผักโขม และผักอื่น ๆ ที่หลากหลาย ซึ่งโรงงานแห่งนี้มีความสำคัญมากสำหรับการผลิตอาหารให้คุ้มกับพื้นที่ขนาดเล็ก

Craig Ratajczyk ซีอีโอของ Crop One บริษัททำเกษตรกรรมแบบแนวตั้งที่อยู่ใกล้กับบอสตัน ซึ่งร่วมมือกับ Emirates Flight Catering ซึ่งเป็นบริษัทจัดหาอาหารให้กับสายการบิน Emirates Airlines ด้วย ในการช่วยสร้างโรงฟาร์มแห่งนี้ด้วย

เช่นเดียวกับฟาร์มในร่มอื่น ๆ โรงงานแห่งใหม่นี้จะติดตามการเจริญเติบโตของพืช ปรับแสง ความชื้น สารอาหารและปัจจัยอื่น ๆ ที่จำเป็นอัตโนมัติเพื่อกระตุ้นการเติบโตของพืช แต่การขยายขนาดการผลิตจะช่วยกระจายต้นทุนของเทคโนโลยีนั้น ซี่งมันกำลังทำกำไรมหาศาล

โรงงานแห่งนี้ยังใช้น้ำน้อยกว่าที่จำเป็นสำหรับการปลูกพืชสีเขียวในทุ่งถึง 95% และไม่มีการใช้ยาฆ่าแมลงหรือสารกำจัดวัชพืช เนื่องจากปลูกในสภาพแวดล้อมที่มีการควบคุม และมันจะถูกส่งไปยังร้านค้าหรือสายการบินทันที Ratajczyk กล่าวว่า ผักเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องล้างก่อนรับประทาน และมีการเน่าช้ากว่าผลผลิตที่เดินทางมาจากแดนไกล

แต่แม้ว่าจะช่วยประหยัดเชื้อเพลิง แต่ก็ยังไม่ชัดเจนเรื่องปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ทั้งหมดว่าจะออกมาเป็นอย่างไรเมื่อมีการเปรียบเทียบกับอาหารที่ถูกนำเข้ามา บริษัทปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพลังงานที่ฟาร์มใช้ (แสงเป็นปัจจัยหนึ่งในการปลดปล่อยจากฟาร์มแนวตั้งและเครื่องปรับอากาศอีก) แม้ว่าบริษัทกล่าวว่าจะใช้ระบบที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่ฟาร์มแห่งนี้ก็ยังคงใช้พลังงานแบบเดิมอยู่ ว่าอนาคตบริษัทมีแผนที่จะใช้พลังงานแสงอาทิตย์

ความรุ่งเรืองของฟาร์มแนวตั้งในอนาคต

แต่ทั้งนี้ ฟาร์มแนวตั้งแบบนี้คาดว่าจะเติบโตในอนาคต และจะขยายธุรกิจเข้าสู่อุตสาหกรรมฟาร์มทั่วโลกที่อาจจะเติบโตได้ถึง 9.7 พันล้านดอลลาร์ในอีก 4 ปี ข้างหน้า

แนวคิดของฟาร์มแนวตั้งไม่ได้มีเพียงเพื่อสร้างรายได้ให้กับธุรกิจของประเทศที่ขาดแคลนทรัพยากรเท่านั้น แต่ยังเป็นทางเลือกของแนวทางการแก้ไขปัญหาวิกฤตอาหารที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอาการที่แปรปรวนมากขึ้น รวมไปถึงการผันผวนของเศรษฐกิจโลกที่ปั่นป่วนจนราคาอาหารสินค้าและบริการสูงขึ้น การมีอยู่ของฟาร์มแนวตั้งจะช่วยให้มนุษย์สามารถบริหารจัดการ ควบคุมและเพิ่มกำลังการผลิตอาหารให้กับคนทั้งโลกได้ หากความรุนแรงของภัยสิ่งแวดล้อมและพิษเศรษฐกิจต่าง ๆ จะไม่รุนแรงมากกว่านี้

แหล่งข้อมูล

https://www.springnews.co.th/spring-life/innovation/827355