Warning: Undefined array key "postid" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 24
Warning: Undefined array key "increase" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 25
Warning: Undefined array key "show_views_today" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 26
เมื่อโลกกำลังจะก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ หรือรถยนต์ไร้คนขับ ซึ่งนอกจากค่ายผู้ผลิตรถยนต์หลายรายหันมาพัฒนาเทคโนโลยีนี้กันแล้ว ยังมีบริษัทอื่น ๆ ที่ก็พัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้ด้วยเช่นกัน
ล่าสุด Nvidia ผู้ผลิตการ์ดจอรายใหญ่ของโลก ได้เปิดตัว “DRIVE Map” แผนที่นำทางที่มีความละเอียดสูง และมีความแม่นยำถึงในระดับเซนติเมตร ซึ่งสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับรถยนต์ไร้คนขับ ให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัยโดยเฉพาะ
สำหรับแผนที่นี้ เกิดขึ้นจากสตาร์ตอัปที่ชื่อ DeepMap ที่มุ่งพัฒนาแผนที่สำหรับรถยนต์ไร้คนขับและ Nvidia ก็ได้เข้าซื้อกิจการมาเมื่อปีที่แล้ว โดยกระบวนการในการสร้างแผนที่ก็คือ จะมีรถยนต์ของ NVIDIA ที่ลงพื้นที่สำรวจเส้นทางเอง รวมกับข้อมูลจากรถสาธารณะเข้ามาสู่ระบบคลาวด์ จึงทำให้เกิดแผนที่ขึ้นมา ซึ่ง NVIDIA ตั้งเป้าว่าจะเก็บข้อมูลเพื่อจัดทำแผนที่ครอบคลุมระยะทางกว่า 500,000 กิโลเมตร ตั้งแต่ทวีปอเมริกาเหนือยันเอเชียให้เสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2024
ในส่วนของการแสดงแผนที่ ก็จะมีรายละเอียดอย่างชัดเจน แบ่งออกเป็น 3 เลเยอร์ และแต่ละเลเยอร์ก็จะมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันไป ได้แก่
-กล้อง ใช้ในการตรวจจับและแสดงสภาพแวดล้อม เช่น เครื่องหมายจราจร, สัญญาณไฟจราจร, ป้าย, เสา และโครงสร้างของถนน อย่างการแบ่งเลนถนน
-เรดาร์ (Radar) เป็นภาพ 3 มิติที่ได้จากเรดาร์ มีประโยชน์ในเรื่องของข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งกีดขวาง รวมถึงมีประโยชน์ในกรณีที่กล้องไม่สามารถตรวจจับได้ เมื่อเจอกับสภาพแสงน้อย หรือสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย หรือในกรณีที่อยู่ชานเมืองที่แผนที่เข้าไม่ถึง
-ไลดาร์ (Lidar) จะแสดงสภาพแวดล้อมรอบ ๆ รถด้วยความแม่นยำ และมีรายละเอียดสูง ในแบบที่กล้อง และเรดาร์ทำไม่ได้
ด้วยทั้งหมดนี้ ทั้งแผนที่ที่จะจัดทำขึ้นมา ประกอบเข้ากับ 3 เลเยอร์นี้ ก็จะทำให้เกิดแผนที่ที่ชื่อว่า DRIVE Map ขึ้นมา
ท้ายที่สุด ถ้าแผนที่นี้สามารถทำให้การขับขี่แบบไร้คนขับปลอดภัยได้จริง ๆ ก็น่าจะเป็นการส่งเสริมให้อุตสาหกรรมรถยนต์ไร้คนขับในอนาคต เข้าใกล้ความเป็นจริงมากยิ่งขึ้น และเติบโตอย่างแน่นอน
แหล่งข้อมูล
https://www.facebook.com/1387231808035873/posts/4893544267404592/