บิตคอยน์-อีเธอเรียม ราคาร่วงต่อเนื่อง หลังจีนเดินหน้าปราบเหมืองคริปโทฯ

Share

Warning: Undefined array key "postid" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 24

Warning: Undefined array key "increase" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 25

Warning: Undefined array key "show_views_today" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 26

Loading

วันที่ 17 พ.ย. 2564 ราคาบิตคอยน์และเหรียญคริปโทเคอร์เรนซี่อื่นๆ ร่วงลงอย่างหนักตั้งแต่เมื่อวันอังคารที่ 16 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างบิตคอยน์ร่วงลงมาต่ำกว่า 60,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดย ณ เวลา 14.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ราคาบิตคอยน์บนกระดานเทรดของ Bitkub มีราคาอยู่ที่ราว 1.998 ล้านบาท

ขณะที่เหรียญอันดับ 2 ของโลกอย่างอีเธอเรียมราคาร่วงลงกว่า 6.8% มาอยู่ที่ 4,254.74 ดอลลาร์ ขณะที่ในไทยเมื่อเวลาราว 14.30 น. บนกระดานเทรด Bitkub ราคาอยู่ที่ประมาณ 1.39 แสนบาท

โดยราคาร่วงลงแรงครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่บิตคอยน์และอีเธอเรียมเพิ่งทำราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ไปในเดือน พ.ย.นี้เอง โดยบิตคอยน์ทำสถิติสูงสุดที่ 68,990.90 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 10 พ.ย. โดยตามมาด้วยอีเธอร์ในวันที่ 11 พ.ย.

ทั้งนี้ ยังไม่ชัดเจนว่าปัจจัยที่ทำให้ราคาคริปโทเคอร์เรนซี่เคลื่อนไหวรุนแรงในครั้งนี้มาจากเรื่องใด

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) ซึ่งมีหน้าที่ในการวางแผนของประเทศจีน กล่าวระหว่างการแถลงข่าวว่า จะดำเนินการกวาดล้างเหมืองขุดสกุลเงินดิจิทัลในประเทศต่อไป

โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมา จีนได้ปราบปรามการขุดบิตคอยน์อย่างหนัก และกวาดล้างเหมืองขนาดใหญ่ประเทศ เนื่องจากมองว่าการขุดเหมืองคริปโทฯ เป็นกระบวนการที่ใช้พลังงานมากในการสร้างเหรียญใหม่ ทั้งยังตรวจสอบธุรกรรมได้ยาก

“การขุดคริปโทฯ ทำให้เกิดการใช้พลังงานและการปล่อยคาร์บอนเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังไม่มีผลกระทบเชิงบวกต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมหรือความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์” Meng Wei โฆษก NDRC กล่าวเมื่อวันที่ 16 พ.ย. ที่ผ่านมา และว่า

“การควบคุมกิจกรรมการขุดคริปโทเคอร์เรนซี่ มีความสำคัญยิ่งต่อการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมของเราให้เหมาะสม, ประหยัดพลังงาน และลดการปล่อยมลพิษ เพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนของประเทศ”

โดยประนาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวเมื่อปีที่ผ่านมาว่า จีนตั้งเป้าปล่อยคาร์บอนเป็น 0 ให้ได้ภายในปี 2060

คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน ระบุอีกว่า NDRC จะยังคงเดินหน้าจัดการกับคริปโทฯ ตามแผนที่วางไว้ตั้งแต่ต้นปีอย่างต่อเนื่อง โดยจะมุ่งเน้นจัดการไปที่บริษัทของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการขุดคริปโทเคอร์เรนซี่ นอกจากนี้ยังพิจารณากำหนดบทลงโทษต่อผู้ที่ขุดคริปโทฯ แล้วจ่ายค่าไฟในราคาไฟฟ้าสำหรับที่อยู่อาศัย

ทั้งนี้ ความคิดเห็นในเชิงลบเกี่ยวกับคริปโทฯ จากเจ้าหน้าที่จีน มักนำไปสู่การเทขายเหรียญดิจิทัล แม้ว่าความเห็นเหล่านั้นจะไม่ใช่เรื่องใหม่ก็ตาม

แหล่งข้อมูล

https://www.facebook.com/109785344593658/posts/226277769611081/