Warning: Undefined array key "postid" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 24
Warning: Undefined array key "increase" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 25
Warning: Undefined array key "show_views_today" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 26
ไม่กี่วันที่ผ่านมากระแสความนิยมต่อแอปพลิเคชันน้องใหม่ “คลับเฮาส์” พุ่งทะยานร้อนแรงไปทั่วโลก เมื่อมีคนดังทรงอิทธิพลอย่าง “อีลอน มัสก์” หรือ “มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก” แห่งเฟซบุ๊กมาใช้งาน รวมถึงการถูกรัฐบาลจีนสั่งแบน เพราะเป็นภัยคุกคามความมั่นคง ยิ่งส่งผลให้แอปโซเชียลมีเดียรายใหม่นี้เป็นของเล่นใหม่ที่ “ต้องมี”
พอล เดวิดสัน ผู้บริหารจากซิลิคอน วัลเลย์ และ โรอัน เซธ อดีตพนักงานกูเกิล เปิดตัว “คลับเฮาส์” ในเดือน เม.ย. 63 แอปที่ใช้ “เสียง” ในการสื่อสารแบบเรียลไทม์นี้ ให้ผู้ใช้สามารถเข้าไปใน “ห้อง” แต่ละห้อง พูดคุยอะไรก็ได้ตั้งแต่กีฬา การเมือง ธุรกิจ ไปจนถึงวัฒนธรรมป๊อป หรือจะเปิดห้องเพื่อการอภิปราย ถกเถียงต่อยอด พัฒนาความคิด สร้างมิตรภาพ หรือขยายเครือข่าย ซึ่งคล้ายกับพอดแคสต์ โดยไม่มีการบันทึกการสนทนา เริ่มแรกเป็นที่นิยมในหมู่คนดังและชาวซิลิคอน วัลเลย์ ที่ช่วยสร้างภาพลักษณ์ ความพรีเมียมได้เป็นอย่างดี โดยบุคคลเหล่านี้จะจัดห้องเพื่อพูดคุยเรื่องต่างๆ ซึ่งแต่ละห้องสนทนาสามารถรองรับผู้ฟังได้ถึง 5,000 คน
นับแต่เปิดตัวในรุ่นเบต้า ผู้ที่เข้าร่วมต้องได้ “รับเชิญเท่านั้น” และใช้ได้เฉพาะกับ ไอโฟน ทำให้กลายเป็นปรากฏการณ์ โดยเฉพาะในยุคของ FOMO ที่ผู้คนจำนวนไม่น้อยกลัวการตกกระแส ยิ่งกระตุ้นความอยากมีส่วนร่วมอย่างรุนแรง จนมีการเสนอขายคำเชิญเข้าใช้งานแล้วทั้งในและต่างประเทศ ยังมีคาดการณ์ว่า “คลับเฮาส์” อาจมีมูลค่าถึง 1 พันล้านเหรียญ จนทำให้เฟซบุ๊กหยิบไอเดียเด็ดนี้มาพัฒนาเป็นเวอร์ชันของตัวเอง หลังจากมาร์ก ซัคเคอร์เบิร์ก ปรากฏตัวในห้องสนทนาใน “คลับเฮาส์” พูดคุยเกี่ยวกับ AR และ VR ที่ผ่านมาหากเฟซบุ๊ก เอาชนะคู่แข่งไม่ได้ก็แค่ทุ่มเงินซื้อ อย่างวอทส์แอพ และอินสตาแกรม นับแต่ซื้อมาเฟซบุ๊กได้เปิดตัวฟีเจอร์เช่น สตอรีส์ และรีลส์ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก สแนปแชท และติ๊กต่อก ส่วนทวิตเตอร์ก็เริ่มทดสอบฟีเจอร์คล้ายกันที่เรียกว่า สเปสเซส ซึ่งจะช่วยให้บุคคลที่มีใจเดียวกันสามารถสนทนาร่วมกันได้
แม้จะมีประเด็นเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้อยู่ ซึ่งผู้ผลิตยืนยันว่าจะเพิ่มฟังก์ชันการเข้ารหัสและการบล็อกเพื่อปกป้องผู้ใช้มากขึ้น แต่หากใช้ในทางสร้างสรรค์ก็นับว่าเป็นช่องทางแลกเปลี่ยนความรู้ได้มาก แต่ในทางกลับกันก็อาจเป็นเครื่องมือเผยแพร่เฟกนิวส์ หรือทำร้ายผู้อื่นไม่ต่างจากโซเชียลมีเดียอื่นๆที่ ผู้ใช้ต้องศึกษาและรู้เท่าทัน ใช้สติและปัญญาในการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ไม่ว่าจะใช้เครื่องมือใดในการสื่อสารก็ตาม