กลุ่มปตท.รับนิวนอร์มัล ตั้งศูนย์เฝ้าระวังไซเบอร์

Share

Loading

พีทีที ดิจิตอล ตั้งศูนย์เฝ้าระวังภัยไซเบอร์ เตรียมความพร้อมและช่วยปกป้องธุรกิจของบริษัทกลุ่ม ปตท. ในช่วงการก้าวสู่โลกยุคนิวนอร์มัล นำเทคโนโลยีจากไอบีเอ็ม ซิเคียวริตี้ มาช่วยตรวจจับภัยคุกคามและเหตุด้านความปลอดภัยต่างๆ ได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

นายเทอดเกียรติ พร้อมมูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด (PTT Digital) เปิดเผยว่าบริษัทพีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด (PTT Digital) ผู้ให้บริการพัฒนาและบริหารจัดการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของกลุ่ม ปตท. ได้จัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security Operations Center) เพื่อเตรียมความพร้อมและช่วยปกป้องธุรกิจของบริษัทกลุ่ม ปตท. ในช่วงการก้าวสู่โลกยุคนิวนอร์มัล โดยนำเทคโนโลยีจากไอบีเอ็ม ซิเคียวริตี้ มาช่วยให้บริษัทกลุ่ม ปตท. สามารถตรวจจับภัยคุกคามและเหตุด้านความปลอดภัยต่างๆ ได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมด้วยการแจ้งเตือน คำแนะนำ การวิเคราะห์เทรนด์อย่างละเอียด และเมทริกซ์รายงานการโจมตีจากฟีดข้อมูลภัยคุกคามอัจฉริยะ

“ปัจจุบัน ความท้าทายในการดำเนินธุรกิจยุคดิจิทัล ไม่เพียงแต่องค์กรจะต้องก้าวทันเทคโนโลยี แต่ยังต้องรู้ทันเทคโนโลยีอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้จำนวนการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว การเฝ้าระวังภัยคุกคามทางไซเบอร์ยิ่งมีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินงานขององค์กรธุรกิจ เพราะผลกระทบจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ก่อให้เกิดความเสียหายต่อองค์กรหลากหลายด้าน เช่น ค่าใช้จ่ายจากการเรียกค่าไถ่ข้อมูล ผลกระทบจากการที่ธุรกิจต้องหยุดชะงัก และที่ร้ายแรงที่สุด คือ การสูญเสียความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อองค์กร ดังนั้นภัยคุกคามบนโลกไซเบอร์จึงไม่ใช่เรื่องเล็ก เป็นเรื่องที่ทุกองค์กรควรให้ความสำคัญ”

“พีทีที ดิจิตอล เปิดให้บริการมากว่า 14 ปี ด้วยพนักงานกว่า 1,000 คน ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น ERP, Web Application, Mobile Application และกลุ่มเทคโนโลยีใหม่ เช่น Data Analytics, Blockchain, Chatbot, RPA และอื่นๆ ที่ให้บริการกับลูกค้าทั้งในและนอกกลุ่ม ปตท. ทั้งนี้ 3 ปัจจัยสำคัญที่ พีทีที ดิจิตอล ถือเป็นมาตรฐานการดำเนินงานศูนย์เฝ้าระวังความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ได้แก่ การคัดเลือกบุคลากรที่มีความรู้ความชำนาญมาดำเนินการ, การกำหนดกระบวนการทำงานที่ชัดเจนและรวดเร็วเมื่อตรวจพบภัยคุกคาม และการคัดสรรเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการบริหารงานเฝ้าระวังความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์” นายเทอดเกียรติ กล่าวเสริม

ศูนย์เฝ้าระวังความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์แห่งใหม่ของพีทีที ดิจิตอล ได้รับการติดตั้งระบบโดย MFEC ซึ่งเป็นคู่ค้าของไอบีเอ็ม บนพื้นฐานของเทคโนโลยีตรวจจับภัยคุกคามระดับโลกและแพลตฟอร์มด้านความมั่นคงปลอดภัยอัจฉริยะ IBM Security QRadar จะช่วยให้กลุ่ม ปตท. สามารถตรวจจับภัยคุกคามและเหตุด้านความปลอดภัยต่างๆ ได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมด้วยการแจ้งเตือน คำแนะนำ การวิเคราะห์เทรนด์อย่างละเอียด และเมทริกซ์รายงานการโจมตีจากฟีดข้อมูลภัย คุกคามอัจฉริยะ โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวจะใช้เทคโนโลยี AI ในการวิเคราะห์บริบทด้านความมั่นคงปลอดภัยเพื่อช่วยให้การตรวจจับและตรวจสอบเหตุต่างๆ เป็นไปอย่างรวดเร็ว ลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับระบบปฏิบัติงานต่างๆ

นายวิบูลย์ ฐานันดรสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจค้าปลีก อุตสาหกรรม โทรคมนาคม และภาครัฐ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่าการโจมตีทางไซเบอร์เป็นความเสี่ยงทางธุรกิจที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น และยิ่งเติบโตมากขึ้นอันเป็นผลมาจากสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วหลังการแพร่กระจายของโควิด-19 การตรวจจับและตอบสนองต่อเหตุภัยคุกคามได้อย่างทันท่วงที รวมถึงการลงทุนในเทคโนโลยีที่ช่วยเร่งระยะเวลาในการตอบสนอง ถือเป็นกุญแจสำคัญในการลดผล กระทบที่เกิดจากเหตุด้านซิเคียวริตี้ รวมถึงค่าใช้จ่ายจากการสูญเสียทางธุรกิจที่จะตามมา ไอบีเอ็มมีความยินดีที่ได้นำเทคโนโลยีซิเคียวริตี้และการบริการระดับโลกเข้าช่วยสร้าง cyber resiliency และช่วยปกป้องธุรกิจของกลุ่ม ปตท. ในช่วงการก้าวสู่โลกยุคนิวนอร์มัล”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา :

https://www.thansettakij.com/content/tech/444281