Amazon หันใช้พลังงานนิวเคลียร์กับดาต้าเซ็นเตอร์ ชูเรื่องไร้มลพิษ ตามรอย Microsoft และ Google
Amazon เป็นบริษัทเทคโนโลยีรายล่าสุดที่ใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์สร้างพลังงานให้กับดาต้าเซ็นเตอร์ หลังประกาศเป็นหนึ่งในผู้ลงทุนกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ใน X-energy ผู้พัฒนาเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบโมดูลาร์ขนาดเล็ก โดยการลงทุนนี้ตามรอย Microsoft และ Google ที่ใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อรับกับการใช้งาน AI ที่เพิ่มขึ้น
Amazon หันใช้พลังงานนิวเคลียร์
Amazon แจ้งอย่างเป็นทางการว่า บริษัทเป็นหนึ่งในผู้ได้ลงทุนกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 16,000 ล้านบาท ใน X-energy เพื่อพัฒนาเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบโมดูลาร์ขนาดเล็ก หรือ SMR (Small Modular Reactor) เพื่อให้พลังงานกับศูนย์ข้อมูลบางแห่งโดยไม่ปล่อยคาร์บอนใดๆ เนื่องจาก Amazon Web Services ที่ให้บริการ Cloud รวมถึงผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับ AI นั้นต้องการพลังงานจำนวนมากในการให้บริการ แต่ภาพรวมธุรกิจของ Amazon เองต้องการดำเนินในรูปแบบไร้มลพิษในอนาคต ผ่านการตั้งเป้าเรื่อง Net Zero ภายในปี 2040
Kevin Miller ผู้อำนวยการธุรกิจ Global Data Centers ของ Amazon แจ้งว่า บริษัทต้องการโซลูชันที่ช่วยเหลือด้านความต้องการพลังงาน แต่ก็ต้องตอบโจทย์เรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่งเทคโนโลยี X-energy ช่วยให้บริษัทไปถึงเป้าหมายดังกล่าวได้
เบื้องต้น Amazon ตั้งเป้าการผลิตพลังงานได้ 5 กิกะวัตต์ เพื่อใช้งานในสหรัฐอเมริกาภายในปี 2039 โดยพื้นที่กลุ่มแรกที่ติดตั้งจะอยู่ที่ Washington และ Virginia ผ่านการร่วมมือกับ Energy Northwest และ Dominion Energy ตามลำดับ
หากเจาะไปที่รายละเอียดจะพบว่า เตาปฏิกรณ์แต่ละตัวสามารถผลิตพลังงานได้ 80 เมกะวัตต์ โดยที่ Washington จะติดตั้ง 4 ตัว เพื่อสร้างพลังงาน 320 เมกะวัตต์ พร้อมกับพื้นที่ที่เพิ่มเป็น 12 ตัว เพื่อสร้างพลังงาน 960 เมกะวัตต์ ในอนาคต และปัจจุบันบริษัทเทคโนโลยีให้ความสำคัญกับพลังงานนิวเคลียร์มากขึ้น เช่น Microsoft และ Google
เหตุผลที่บริษัทเทคโนโลยีเดินหน้าเรื่องนี้ เพราะต่างต้องการพลังงานสะอาดเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการให้บริการ AI ซึ่งจะทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้พลังงานจำนวนมากก็จำเป็น และก่อนหน้านี้ Amazon ได้ซื้อกิจการดาต้าเซ็นเตอร์ที่ Pennsylvania ที่ต่อไฟได้ตรงจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่นั่นด้วย
แหล่งข้อมูล