Warning: Undefined array key "postid" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 24
Warning: Undefined array key "increase" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 25
Warning: Undefined array key "show_views_today" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 26
ทุกวันนี้ถึงเราจะไม่ได้ยินคำว่า สตาร์ทอัป (Startup) บ่อยเท่าสมัยก่อน แต่อย่างน้อยสิ่งที่ระดับคนวางนโยบายในโลกจำนวนมากเชื่ออยู่ก็คือ สตาร์ทอัปคือรูปแบบบริษัทแห่งอนาคต ที่จะผลักดันเศรษฐกิจไปข้างหน้า และคนระดับผู้บริหารส่วนใหญ่ในโลกก็อยากให้บ้านเมืองของตัวเองมีสตาร์ทอัปเยอะๆ
ในแง่นี้แทบทุกคนคงรู้สึกอิจฉา ซิลิคอน แวลลีย์ (Silicon Valley) เพราะ ‘เมือง’ แห่งนี้ในแคลิฟอร์เนียนั้นมีสตาร์ทอัปเยอะที่สุดในโลก และนั่นก็หมายถึงเศรษฐกิจที่น่าจะมีอนาคตสดใสเช่นกัน แต่รู้ไหมว่า เหตุที่ Silicon Valley มีสตาร์ทอัปเยอะที่สุดในโลก ส่วนหนึ่งก็เพราะมีคนเยอะ ดังนั้นบริษัทจะเยอะขึ้นตามก็ไม่แปลก แต่ถ้าเราจะมานับกันจริงๆ ถึงความ ‘หนาแน่น’ ของสตาร์ทอัป ก็ต้องเอาสตาร์ทอัปมาเทียบกับประชากร
และถ้าลองคิดแบบนี้ เราจะพบว่า ‘เมือง’ ที่มีสตาร์ทอัปอยู่หนาแน่นเทียบระดับ Silicon Valley ก็คือ กรุงเทลอาวีฟ (Tel Aviv) เมืองหลวง และเมืองศูนย์กลางธุรกิจของอิสราเอล
สำหรับคนไม่คุ้นก็อาจงงว่า อิสราเอลนี่นะสตาร์ทอัปเยอะ? แต่ในความเป็นจริง หากใครตามเรื่องพวกนี้ ก็คงจะรู้อยู่แล้วว่า สตาร์ทอัป (ซึ่งก็คือบริษัทที่มีสินค้าหลักเป็น Solution ทางเทคโนโลยีให้กับสารพัดเรื่องในโลก) เนี่ย อิสราเอลเขาโดดเด่นมานานแล้ว และเมืองที่เป็นทั้งเมืองหลวงของประเทศ และ ‘เมืองหลวงของสตาร์ทอัป’ ในอิสราเอลก็ได้แก่ Tel Aviv นี่แหละ
คำถามคือทำไมเป็นแบบนั้น?
นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า นั่นเป็นเพราะรัฐบาลอิสราเอลมีกองทุนเพื่อสตาร์ทอัปที่ตั้งในอิสราเอลโดยเฉพาะ ชื่อว่า ‘Tnufa National Pro-Seed Fund’ ซึ่งทำให้คนอิสราเอลมีทุนทำสตาร์ทอัป และทำให้คนต่างชาติแห่กันไปตั้งสตาร์ทอัปที่อิสราเอล (ซึ่งไปตั้งที่ Tel Aviv ก็ไม่แปลก เพราะเป็นทั้งเมืองหลวงและเมืองหลักด้านการค้าและเทคโนโลยีของอิสราเอลมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว)
แต่การอธิบายแบบนี้มันก็ชวนตั้งคำถามว่า เหตุผลมันมีแค่นั้นจริงหรือ? คือแค่รัฐบาลมีกองทุนให้ กระทั่งดึงดูดต่างชาติให้เข้ามา มันเพียงพอแล้วหรือที่จะทำให้เมืองหนึ่ง หรือประเทศหนึ่ง ประสบความสำเร็จด้านสตาร์ทอัปได้ คำตอบคือ ไม่น่าใช่ เพราะถ้ามันง่ายๆ แค่นี้ หลายประเทศก็คงทำตามไปหมดแล้ว และที่จริงหลายประเทศก็ใช้นโยบายนี้กันมาพักใหญ่แต่ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จ
ดังนั้นถึงการมีกองทุนเพื่อสตาร์ทอัปจะเป็นปัจจัยเสริมที่สำคัญ แต่มันไม่ใช่ปัจจัยชี้ขาดแน่ๆ แล้วปัจจัยชี้ขาดที่ทำให้อิสราเอลมี สตาร์ทอัปผุดเป็นดอกเห็ดคืออะไร?
ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับประเทศอิสราเอลชี้ว่า มันมีสองอย่าง อย่างแรก มันเป็นเพราะคนอิสราเอลทุกคนต้องเกณฑ์ทหาร ขึ้นต้นมาอย่างนี้อาจงง ว่าเกณฑ์ทหารมันเกี่ยวอะไรกับสตาร์ทอัป?
คืออย่างนี้ อิสราเอลเป็นประเทศเล็กๆ ที่มีประเทศที่เป็นอริอยู่ล้อมรอบ ดังนั้นกองทัพของเขาจึงต้อง ‘ไฮเทค’ สุดๆ (อันนี้นึกถึงสิงคโปร์ก็ได้ มีความคล้ายกันอยู่) และการที่คนหนุ่มสาวทุกคนต้องเกณฑ์ทหาร ประเด็นมันเลยไม่ใช่แค่ไปฝึกวินัย (หรือต้องไปตัดหญ้าและซักผ้าบ้านนายพลแบบบางประเทศ) แต่มันหมายความว่าพวกเขาจะได้เรียนรู้เทคโนโลยี IT ใหม่ล่าสุดมาจากกองทัพไม่มากก็น้อยในช่วงที่ไปเกณฑ์ทหาร ซึ่งบางคนอาจไม่รู้ว่า ในด้าน IT นั้นอิสราเอลนี่เรียกว่า ‘ขั้นเทพ’ ในโลกแฮกเกอร์นี่คนอิสราเอลขึ้นชื่อเลยว่าเก่ง บริษัทที่ทำโปรแกรมสอดส่องขายให้ประเทศต่างๆ (รวมทั้งบ้านเรา) ส่วนใหญ่ก็บริษัทอิสราเอลทั้งนั้น
รู้แบบนี้แล้วก็ไม่แปลกเลย เพราะคนอิสราเอลทุกคนต้องผ่านการเทรนด้าน IT ด้วยระบบที่ใช้ในการสงครามจริงมาแทบทุกคนในระหว่างการเกณฑ์ทหาร
เราคงไม่บอกว่าคนอิสราเอลทุกคนเกณฑ์ทหารจบแล้วจะกลายเป็นแฮกเกอร์ขั้นเทพไปหมดหรอก แต่ประเด็นคือ ทุกคนในประเทศนี้ในวัยทำงาน เขามีทักษะ IT ในระดับสูงมาก และนั่นเป็นฐานด้านแรงงานชั้นดีให้กับบริษัทสตาร์ทอัปต่างๆ ที่ตั้งในประเทศ และก็น่าจะพูดได้เลยว่า ไม่มีประเทศไหนที่มีแรงงาน IT เทพระดับนี้ ดังนั้นทรัพยากรบุคคลของอิสราเอลจึงพร้อมสุดๆ ในการที่จะทำให้เกิดสตาร์ทอัป
แต่มันยังไม่จบแค่นั้น เพราะก็ยังมีค่านิยมที่เฉพาะตัวของชาวยิวอีกที่เรียกว่า ‘chutzpah’ ซึ่งเป็นภาษายิดดิช
เด็กชาวยิวในอิสราเอล (และจริงๆ ก็น่าเด็กจะทั่วโลกที่เกิดในครอบครัวยิว) จะถูกสอนให้มี ‘chutzpah’ แต่เด็ก ซึ่งคำที่แปลเป็นภาษาอื่นยากนี้ ถ้าจะแปล ก็คงแปลได้ว่า ‘ความกล้า’ ในเซนส์ของความกล้าที่จะทำอะไรใหม่ๆ โดยเฉพาะในเชิงการสร้างนวัตกรรมไปจนถึงธุรกิจ ซึ่งค่านิยมนี้ก็มีความสอดคล้องกับค่านิยมเกี่ยวกับ ‘ความล้มเหลว’ ที่สังคมอิสราเอลมองว่าความล้มเหลวเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
ความเชื่อว่าคนควรจะมีความกล้าทำอะไรใหม่ๆ และมองว่าความล้มเหลวเป็นเรื่องธรรมชาติ เป็นองค์ประกอบทางวัฒนธรรมชั้นดีสุดๆ ที่จะทำให้สังคมนั้นเกิด ‘ผู้ประกอบการ’ ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ เพราะถ้าเรารู้จักชาวยิวในประวัติศาสตร์มา เราคงไม่แปลกใจเลย เพราะคำอธิบายนี้มันดูจะสอดคล้องกับการที่ชาวยิวเป็นชนชาติพ่อค้าที่โดดเด่นมายาวนานในประวัติศาสตร์โลก และมันก็ไม่แปลกอีกเช่นกัน ที่ค่านิยมนี้จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการผลักให้คนยิวหนุ่มสาวมี ‘ความกล้า’ ที่จะเริ่มธุรกิจแบบใหม่ของตัวเอง หรือตั้งสตาร์ทอัป
กล่าวโดยสรุปแล้วที่อิสราเอลมีสตาร์ทอัปเยอะแยะขนาดนี้ ทั้งๆ ที่ประชากรมีน้อย (ทั้งประเทศมีเพียง 10 ล้านคน โดยอยู่ใน Tel Aviv แค่ราว 500,000) ก็เกิดจากทั้งสามปัจจัยประสานกัน คือการที่รัฐบาลสนับสนุนเงินทุนให้ไปตั้งสตาร์ทอัป มันช่วยมากในทางการเงิน แต่นั่นจะเป็นไปไม่ได้เลยถ้าอิสราเอลไม่มีทรัพยากรด้านแรงงาน IT ที่พร้อม และปัจจัยนี้ก็เกิดมาจากการที่ทุกคนต้องเกณฑ์ทหารในกองทัพสุดไฮเทคของอิสราเอล และในอีกด้านหนึ่ง ถ้าคนอิสราเอลไม่มีค่านิยมที่เชื่อในเรื่อง ‘ความกล้า’ ที่จะก่อตั้งธุรกิจของตัวเอง คนก็คงจะรอเป็นลูกจ้างอย่างเดียวกันหมด ไม่มีใครลุกขึ้นมาทำธุรกิจเองเช่นกัน
แหล่งข้อมูล
https://www.facebook.com/brandthink.me/photos/a.1767934240198787/3499497687042425/