เมียนมาติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่ม หวั่นเพื่อปราบปรามนักเคลื่อนไหว

Share

Warning: Undefined array key "postid" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 24

Warning: Undefined array key "increase" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 25

Warning: Undefined array key "show_views_today" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 26

Loading

รัฐบาลเมียนมามีแผนติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มใน 5 เมือง เพื่อ “รักษาความสงบสุข” แต่กลุ่มสิทธิมนุษยชนเกรงว่า จะถูกใช้เพื่อปราบปรามนักเคลื่อนไหว

แหล่งข่าว 3 รายซึ่งไม่เปิดเผยชื่อ เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า รัฐบาลทหารเมียนมากำลังเร่งติดตั้งกล้องวงจรปิดที่ผลิตโดยจีน ซึ่งมีความสามารถในการจดจำใบหน้าบุคคล ในหลายเมืองทั่วประเทศ

แหล่งข่าวระบุว่า ในการประกวดราคาเพื่อจัดหาและติดตั้งกล้องรักษาความปลอดภัยและเทคโนโลยีการจดจำใบหน้า แผนดังกล่าวได้รับการอธิบายว่าเป็นส่วนหนึ่งของ “โครงการเมืองปลอดภัย” และเพื่อรักษาความสงบสุขของประชาชน

โครงการติดตั้งกล้องวงจรปิดใหม่ในอย่างน้อย 5 เมืองทั่วประเทศ รวมถึงเมืองมะละแหม่ง ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศ

โครงการใหม่นี้เป็นโครงการเพิ่มเติมจาก 5 เมืองก่อนหน้านี้ที่มีการติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดโดยรัฐบาลชุดก่อนซึ่งนำโดยอองซานซูจี ซึ่งให้เหตุผลว่าเพื่อป้องกันอาชญากรรม

สำนักข่าวรอยเตอร์พยายามติดต่อไปยังโฆษกรัฐบาลทหารเพื่อสอบถามถึงโครงการติดตั้งหล้องวงจรปิดใน 5 เมืองแต่ไม่ได้รับการตอบกลับ และไม่สามารถตรวจสอบการประมูลจัดซื้อจัดจ้างหรือเยี่ยมชมเมืองเพื่อตรวจสอบการติดตั้งกล้องได้

บริษัทจัดซื้อจัดจ้างในท้องถิ่นที่ชนะการประมูลประกวดราคา คือ Fisca Security & Communication และ Naung Yoe Technologies โดยเป็นผู้จัดหากล้องวงจรปิดและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องบางส่วนจากบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง Zhejiang Dahua Technology, Huawei Technologies และ Hikvision

เป็นเรื่องปกติที่หลายเมืองทั่วโลกใช้ระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) ในการป้องกันการก่ออาชญากรรม นอกจากนี้ยังมีการใช้ซอฟต์แวร์จดจำใบหน้าเพื่อวัตถุประสงค์ในการบังคับใช้กฎหมาย

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีความรู้โดยตรงเกี่ยวกับโครงการในเมียนมาและกลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า พวกเขากลัวว่า โครงการใหม่นี้จะถูกนำมาใช้เพื่อปราบปรามนักเคลื่อนไหวและกลุ่มต่อต้าน ซึ่งถูกกำหนดให้เป็นผู้ก่อการร้ายโดยรัฐบาลทหารหลังการรัฐประหาร แต่พวกเขายังไม่มีหลักฐานว่ารัฐบาลทหารมีจุดประสงค์เช่นนั้นจริงหรือไม่

ฟิล โรเบิร์ตสัน รองผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียของฮิวแมนไรต์วอตช์ กล่าวว่า “กล้องวงจรปิดก่อให้เกิดความเสี่ยงอย่างร้ายแรงต่อนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยของเมียนมา เพราะทหารและตำรวจสามารถใช้พวกมันในการติดตามการเคลื่อนไหวของพวกเขา หาความสัมพันธ์ระหว่างนักเคลื่อนไหว ระบุบ้านที่พักและจุดรวมพลอื่น ๆ และสกัดจับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ใช้โดยนักเคลื่อนไหวได้”

ทั้งนี้ ความกังวลดังกล่าวก็ใช่จะไม่มีมูลเสียทีเดียว เนื่องจากก่อนหน้านี้มีรายงานว่า รัฐบาลทหารเมียนมาได้มีส่วนร่วมในการติดตั้ง “สปายแวร์ (Spyware)” ไว้ที่ผู้ให้บริการโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ตเพื่อดักฟังการสื่อสารของประชาชน และใช้ “หน่วยต่อสู้ด้วยข้อมูล” เพื่อตรวจสอบและโจมตีเสียงต่างในโลกออนไลน์

เฉพาะในเมืองมะละแหม่ง ขณะนี้มีกล้องวงจรปิดมากกว่า 200 ตัว และกำลังจะติดตั้งเพิ่มอีก แหล่งข่าวรายหนึ่งยังเผยว่า ในปีนี้ ได้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดในเมืองมิตจีนา เมืองหลวงของคะฉิ่น ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีเหตุการณ์ความไม่สงบทางชาติพันธุ์

แหล่งข้อมูล

https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/176106