Warning: Undefined array key "postid" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 24
Warning: Undefined array key "increase" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 25
Warning: Undefined array key "show_views_today" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 26
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยการจัดเก็บภาษี e-Service ในอัตรา 7% ต่อปี จากแพลตฟอร์มต่างประเทศที่ให้บริการทางออนไลน์แก่ผู้ใช้บริการในประเทศไทย และมีรายได้เกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี จะเริ่มมีผลบังคับใช้ทางกฎหมายในวันที่ 1 ก.ย. 64
โดยผู้ให้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างชาติในไทยที่มาลงทะเบียนเสียภาษีผ่านระบบ VES (VAT for Electronic Service) ของกรมสรรพากรแล้วจำนวน 18 รายจากบริษัทที่เข้าข่ายต้องเสียภาษีนี้รวมประมาณ 100 ราย โดยสรรพากรคาดว่าในช่วงที่เหลือของเดือน ส.ค. 64 จะมีการทยอยมาลงทะเบียนจนครบจำนวน 100 ราย ประเมินว่าไทยจะมีรายได้จากภาษี e-Service ประมาณปีละไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาท จากการใช้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ปรับเพิ่มขึ้นมาก
โดยการศึกษาตัวอย่างของประเทศที่เริ่มจัดเก็บภาษี e-Service ไปแล้ว 60 ประเทศทั่วโลกพบว่า ภาษี e-Service จะช่วยให้เกิดความเป็นธรรมในการแข่งขันมากขึ้น เช่นที่ผ่านมาคนไทยที่ทำธุรกิจออนไลน์และมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทจะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่แพลตฟอร์มต่างชาติกลับไม่ต้องเสีย ดังนั้นการมีภาษีตัวนี้ขึ้นมานอกจากจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับประเทศ ก็จะช่วยให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการไทย และอาจจูงใจให้เกิดธุรกิจสตาร์ทอัพใหม่ๆ หรือกระทั่ง Unicorn ของไทยก็เป็นได้
แหล่งข้อมูล
https://www.facebook.com/383783158622910/posts/1553798294954718/