ILINK เผยรายได้ไตรมาส 1/63 กำไรพุ่ง 57%

Share

Loading

น่าจับตามองสำหรับผลประกอบการไตรมาสแรก ILINK ของปี 63 เผยรายได้รวม 1,349 ลบ. กำไร 77 ลบ. เพิ่มขึ้น 57% กำไรโตไม่หวั่นสถานการณ์ Covid-19 เชื่อมั่นผลประกอบการตลอดปี 63 โตตามเป้ารายได้ 5,950 ลบ. และเป้ากำไรสุทธิ 6% ของรายได้ ชี้มติซื้อหุ้นคืน ทำราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น

นายสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสายสัญญาณที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน เปิดเผยว่า “สำหรับผลการดำเนินงานงวดสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 นั้น กลุ่มบริษัทอินเตอร์ลิ้งค์ ฯ มีรายได้รวมจำนวน 1,349 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเปรียบเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานอยู่ที่ 77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57% มั่นใจรายได้ปีนี้เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ 5,950 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 5% โดยสัดส่วนรายได้ที่ตั้งเป้าไว้ดังนี้ ธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ (Distribution) อยู่ที่ 2,340 ล้านบาท ธุรกิจโทรคมนาคม (Telecom) อยู่ที่ 2,396 ล้านบาท และธุรกิจวิศวกรรมโครงการพิเศษ (Engineering) อยู่ที่ 1,214 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี (2563-2567) บริษัทฯ ได้ปรับสัดส่วนรายได้ของธุรกิจที่มีอัตรากำไรที่ดีเพิ่มขึ้น โดยไม่เน้นการเติบโตของรายได้ มุ่งเน้นการทำกำไรสุทธิของกลุ่มบริษัทฯ นอกจากนี้แล้ว จากการที่คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้ซื้อหุ้นของบริษัทคืนในจำนวนไม่เกิน 40 ล้านหุ้น ส่งผลให้ราคาซื้อขายหุ้นปรับตัวสูงขึ้นอีกด้วย ในขณะที่ประเทศไทยและทั่วโลกต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตไวรัสโควิด-19 แต่ในภาพรวมการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทอินเตอร์ลิ้งค์ฯ ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ทำให้มั่นใจได้ว่าแนวโน้มรายได้ในปี 2563 จะเป็นไปตามเป้าแน่นอน”

สำหรับธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ (Distribution) ไตรมาสแรกมีรายได้รวมอยู่ที่ 540 ล้านบาท มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานอยู่ที่ 30 ล้านบาท โดยภาพรวมการดำเนินธุรกิจดีขึ้นอย่างต่อเนื่องท่ามกลางสถานการณ์ต่างๆ ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก ธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณได้รับปัจจัยบวกจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีความจำเป็นต้องสื่อสารผ่านทางออนไลน์มากขึ้น แม้สถานการณ์วิกฤตนี้จะผ่านพ้นไปแล้ว แต่จะช่วยให้คนคุ้นชินกับเทคโนโลยี กลายเป็น New Normal (ความปกติแบบใหม่ในสังคม) หลังจบ COVID-19 โดยกิจกรรมการสื่อสารออนไลน์ล้วนต้องอาศัยการส่งข้อมูลผ่านสายสัญญาณ (Cabling) และอุปกรณ์ส่งสัญญาณ (Networking) เพื่อส่งผ่านไปยังอุปกรณ์ Wi-Fi (Access Point) ซึ่งเป็นสินค้าหลักของธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ พร้อมชูแคมเปญ “คุณสั่ง เราส่ง” และปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดกิจกรรมทั้งหมดผ่านรูปแบบออนไลน์เพื่อกระตุ้นยอดขาย ดังนั้นในสถานการณ์ที่มีวิกฤตไวรัสโควิด-19 จึงไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ (Distribution)

สำหรับธุรกิจโทรคมนาคม (Telecom) ยังคงการเติบโตที่โดดเด่น ไตรมาสแรกมีรายได้รวมอยู่ที่ 455 ล้านบาท มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานอยู่ที่ 40 ล้านบาท ซึ่งมีรายได้หลักมาจากงานบริการโครงข่ายซึ่งถือเป็นรายได้หลักอยู่ที่ 267 ล้านบาท เป็นผลจากการเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ห่างไกล (USO Phase 2) ที่เริ่มเปิดให้บริการในไตรมาสนี้ ในขณะเดียวกันโครงข่ายของบริษัทฯ เป็นที่รู้จักและได้รับความไว้วางใจด้วยคุณภาพของการให้บริการ จึงทำให้บริษัทฯสามารถขยายฐานลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้บริษัทฯ ได้ชนะการประมูลประกวดราคาบริการระบบเครือข่ายเสมือนและระบบแจ้งเตือนข้อความสั้น (SMS) ของการประปาส่วนภูมิภาค มูลค่าโครงการรวม 17.12 ล้านบาท ทำให้จะมีการรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง มาเสริมรายได้ของธุรกิจโทรคมนาคมอีกด้วย

สำหรับธุรกิจวิศวกรรมโครงการพิเศษ (Engineering) ไตรมาสแรกมีรายได้รวมอยู่ที่ 344 ล้านบาท ซึ่งได้ดำเนินการตามแผนปรับลดสัดส่วนรายได้ของธุรกิจวิศวกรรมจาก 20% เหลือเพียง 5% มุ่งเน้นเฉพาะงานที่บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญเท่านั้น ตั้งแต่ต้นปี 2563 ถึงปัจจุบัน บริษัทฯ ได้งานของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) 3 งานด้วยกัน มูลค่ารวมกว่า 323.48 ล้านบาท โดยทั้ง 3 งานลงนามสัญญาจ้างเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ งานโครงการ CC3 อาคาร SAT-1 ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ปัจจุบันมีความคืบหน้าไปมากกว่า 80% และรถไฟ APM ก็มีแผนที่จะทยอยนำส่งในไม่ช้า สำหรับ Backlog ยังเหลือรับรู้รายได้อีกกว่า 1,442 ลบ. ซึ่งคาดการณ์จะรับรู้รายได้ในปี 2563 จำนวน 1,214 ลบ. ซึ่งสอดคล้องกับสัดส่วนของเป้าหมายรายได้ ส่งผลให้รายได้ของธุรกิจวิศวกรรมโครงการพิเศษในปี 2563 เป็นไปตามเป้าอย่างแน่นอน

บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)
48 อาคารอินเตอร์ลิ้งค์ ซอยรุ่งเรือง ถนนรัชดาภิเษก 20
แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310

www.interlink.co.th