ข้อควรรู้เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานของกล้องไอพี

Share

Loading

โดย ไบรอัน มาลารี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ สำหรับระบบเพื่อการเฝ้าระวังภัย บริษัทเวสเทิร์น ดิจิตอล คอร์ปอเรชั่น

            ความปลอดภัยเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆ ของผู้บริโภคและธุรกิจทุกอุตสาหกรรมทั่วโลก จึงทำให้ตลาดกล้องวิดีโอวงจรปิดเพื่อการรักษาความปลอดภัยในปัจจุบันนั้นกำลังเติบโต ทางสถาบันวิจัยการตลาดมาร์เก็ตแอนด์มาร์เก็ตได้คาดการณ์ว่าการมูลค่าตลาดของวิดีโอวงจรปิดทั้งแบบแอนะล็อกและระบบกล้องไอพีจะเติบโตขึ้นจาก 36.89 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี พ.ศ.2561 เป็น 68.34 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี พ.ศ. 2566 โดยมีอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ในช่วงปี พ.ศ.2561-2566 อยู่ที่ 13.1% สำหรับตลาดของกล้องวงจรปิดระบบไอพีคาดว่าจะเติบโตสูงกว่าอัตราโดยเฉลี่ยต่อปี สถาบันวิจัยการตลาดไอดีซีคาดการณ์ว่าในปี พ.ศ. 2568 อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่สามารถส่งข้อมูลถึงกันได้ด้วยอินเตอร์เน็ต (IoT) หรือ กับ “ธิง” จะมีจำนวนถึง 41.6 พันล้าน และจะผลิตดาต้าจำนวน 79.4 เซตตะไบต์ และดาต้าส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นจากแอปพลิเคชั่นของกล้องวิดีโอวงจรปิด

            นอกเหนือจากเรื่องความปลอดภัยในที่สาธารณะ ที่ทำให้คนส่วนใหญ่หันไปใช้กล้องวงจรปิดระบบไอพีแทนระบบแอนะล็อกดั้งเดิมแล้ว อีกสาเหตุที่ทำให้ตลาดระบบกล้องวงจรปิดระบบไอพีเติบโตมากยิ่งขึ้นคือการเปลี่ยนมาใช้กล้องวงจรปิดแบบไอพีและวิธีการบันทึกวิดีโอแบบดิจิทัลลงฮาร์ดดิสก์ผ่านระบบ LAN (Network-enabled Video Recorder หรือ NVRs) แทนการใช้เครื่องบันทึกภาพกล้องวงจรปิดแบบดิจิตอล ( Digital Video Recorder หรือ DVR ) ที่แทนการใช้สายเคเบิลเชื่อมต่อแยกมายังกล้องแต่ละตัวกับระบบเครือข่ายอีเธอร์เน็ตที่เชื่อมต่อกล้องหลายตัวเข้ากับเครื่องบันทึกภาพ

            ประโยชน์ที่จะได้รับจากการนำกล้องวงจรปิดระบบไอพีมาใช้เพื่อรักษาความปลอดภัยแทนระบบแอนะล็อกนั้นมีอยู่หลายประการ โดยแผนโครงสร้างพื้นฐานจะเป็นไปตามที่คุณวางไว้ ตั้งแต่จุดแสดงผลไปยังอุปกรณ์ปลายทางไปถึงระบบงานหลัก

  1. ติดตั้งและเพิ่มจำนวนได้อย่างง่ายดาย

            กล้องวงจรปิดส่วนใหญ่ในอดีตจะใช้สายเคเบิ้ลในการเชื่อมต่อกันคนละสาย แต่คงไม่ได้เป็นเช่นนั้นอีกแล้ว เพราะเมื่อเครื่องบันทึกภาพในปัจจุบันมีกล้องถึง 16 ตัว แสดงว่าเราจำเป็นต้องใช้สายเคเบิ้ลถึง 16 สายด้วยกัน ฉะนั้นสิ่งที่คุณต้องนำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อมากที่สุดในตอนนี้ คือ สายอีเธอร์เน็ตหนึ่งสายเพื่อทำการเชื่อมต่อเข้ากับกล้องแต่ละตัวเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดใดก็ตาม จะเป็นร้านขายของชำที่มีกล้องวงจรปิดเพียงไม่กี่ตัว ไปจนถึงธนาคารพาณิชย์ที่มีกล้องมากกว่า 100 ตัว กล้องวงจรปิดที่จอแสดงผลสามารถเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายที่มีความปลอดภัย จากนั้นจะเชื่อมต่อไปยังเครื่องบันทึกภาพกลางและเซิร์ฟเวอร์

            สำหรับวงจรปิดที่เป็นระบบแอนะล็อคแบบเดิม การจะเพิ่มจำนวนกล้องนั่นหมายถึงการเพิ่มปริมาณเครื่องบันทึกและสายเคเบิ้ลเพื่อเชื่อมต่อกับกล้องแต่ละตัว แต่สำหรับกล้องวงจรปิดไอพี คุณสามารถที่จะเพิ่มกล้องได้อย่างง่ายดายเพียงทำการลงทะเบียนกล้องแต่ละตัวลงบนเครือข่ายโดยใช้หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP address) สำหรับกล้องวงจรปิดที่ใช้ภายในที่พักอาศัย หากคุณต้องการจะเพิ่มกล้องที่บริเวณระเบียงหน้าบ้าน เพียงแค่ต่อกล้องเข้ากับสัญญาณ Wi-Fi ใส่หมายเลขไอพี หลังจากนั้นกล้องจะเริ่มทำการทดสอบการเชื่อมต่อกับระบบไอพี ในขณะที่เครื่องบันทึกภาพจะทำการเชื่อมต่อสัญญาณกับอุปกรณ์ใหม่

  1. มาตรฐาน ONVIF ทำให้กล้องไอพีสามารถสื่อสารกับอุปกรณ์บันทึกได้

            ONVIF (Open Network Video Interface Forum) คือ มาตรฐานกลางระดับโลกที่สามารถให้กล้องไอพีสามารถสื่อสารกับอุปกรณ์บันทึกและเชื่อมต่อกับอุปกรณัรักษาความปลอดภัยอื่นได้อันประกอบไปด้วยเครื่องบันทึกเครือข่าย เมื่อกล้องตัวใหม่ถูกเพิ่มเข้าสู่เครือข่าย เครื่องบันทึกภาพจะสามารถจัดการและจำแนกกล้องและเริ่มต้นบันทึกภาพและเสียงผ่านระบบวิดีโอสตรีมมิ่ง ONVIF ยังช่วยให้ค่าพารามิเตอร์ของกล้องทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น ความละเอียดในการแสดงภาพ และการแสดงผลจำนวนภาพสามารถกำหนดได้จากเครื่องบันทึกภาพ ผู้ดูแลระบบสามารถควบคุมการแพน การซูม การทิ้ลท์ (PZT – Pan Zoom Tilt) ของกล้องจากจอเฝ้าคุมเครื่องบันทึกภาพ โดยการเล็งและซูมกล้องตามความต้องการ เพือให้ได้ภาพที่เด่นชัดตามความเหมาะสม ONVIFและเทคโนโลยีไอพียังช่วยให้เกิดความยืดหยุ่นและการควบคุมอย่างดีเยี่ยมแก่โซลูชั่นการรักษาความปลอดภัย

  1. ก้าวข้ามข้อจำกัดเรื่องพื้นที่การติดตั้งด้วยเทคโนโลยีไร้สาย

            การเพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยภายในอาคารเก่าสักที่ เช่น อาคารที่มีโครงสร้างเป็นอิฐหรือหิน เป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับการติดตั้งกล้องแบบแอนะล็อก แต่ไม่ใช่อุปสรรคในการเชื่อมต่อของกล้องวงจรปิดไร้สาย เพราะแทนที่จะต้องทำการทุบกำแพงเพื่อที่จะติดตั้งสายเคเบิ้ล แต่คุณสามารถส่งวิดีโอที่ทำการบันทึกบนกล้องไอพีผ่านสัญญาณแบบไร้สายไปยังเครื่องบันทึกภาพผ่านทางเครือข่ายไอพีได้ สิ่งนี้ทำให้ระบบไอทีและการรักษาความปลอดภัยมีความยืดหยุ่นในการปรับโครงแบบเครือข่ายและสามารถวางโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะที่จะรองรับระบบได้

กล้องวงจรปิดแบบไอพี ได้วางโครงสร้างพื้นฐานให้กับกล้องวงจรปิดในยุคถัดไป

            กล้องไอพีกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และมาแทนที่ระบบแอนะล็อกในอดีต กล้องไอพีมีข้อดีสำหรับที่จะนำไปใช้ในระบบด้านความปลอดภัย โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการติดตั้ง และการเพิ่มจำนวนกล้องได้อย่างง่ายดาย รวมถึงสมรรถนะของเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยที่จะสามารถเชื่อมถึงกันได้ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ระบบไอพีไร้สายสำหรับการเชื่อมต่อ เพราะเส้นบางๆ ระหว่างไอทีและความปลอดภัยที่มีความไม่ชัดเจนอยู่ ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องวางโครงสร้างพื้นฐานที่ถูกต้องเหมาะสมเพื่อรองรับกล้องวงจรปิดไอพี และควรติดต่อทั้งฝ่ายไอทีและฝ่ายด้านความปลอดภัย การจะวางโครงสร้างพื้นฐานให้ครบถ้วนและประสบความสำเร็จจะต้องคำนึงถึง สตอเรจจัดเก็บข้อมูลโดยต้องพิจารณาตั้งแต่อุปกรณ์ปลายทางสู่ระบบงานหลัก ที่ตัวกล้อง ระบบบันทึก NVR และระบบหลังบ้าน

WD LOGO N

www.westerndigital.com